ทุ่งดอกลาเวนเดอร์น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆคน ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่เมืองวาลองโซล (Valensole) เป็นทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก ในแคว้นโพรวองซ์ (Provence) แห่งนี้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายจากความสวยงามและมีเสน่ห์ของวิวสุดลูกหูลูกตาของทุ่งดอกลาเวนเดอร์ รวมไปถึงหมู่บ้านเล็กๆที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล
ดอกลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งเต็มที่ประมาณปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงประมาณกลางเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม ช่วงที่สวยที่สุดและน่าไปที่สุดเห็นจะเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม
ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ Angelvin Lavender Field เป็นหนึ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในบริเวณนี้ ทุ่งลาเวนเดอร์ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรี แต่บอกก่อนเลยว่าต้องเตรียมตัว เพราะเมื่อเดินเข้าไปข้างในสิ่งแรกที่สัมผัสได้เลยก็คือกลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์ที่ลอยคละคลุ้งมาเตะจมูก
หลายๆคนอาจจะรู้แค่ว่าเลเวนเดอร์นั้นเป็นดอกไม้สีม่วง แต่รู้หรือไม่ว่าพันธุ์ของดอกลาเวนเดอร์ที่เค้าปลูกกันเป็นทุ่งสุดลูกหูลูกตานั้นส่วนใหญ่แล้วเค้าจะใช้ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ Lavendin หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า "ลาเวนเดอร์พันธุ์ฝรั่งเศส" มาปลูก ดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ธรรมดาทั่วไปนั้นจะมีกลิ่นที่ค่อนข้างอ่อนแต่พันธุ์ Lavendin นั้นจะมีกลิ่นที่แรงกว่า และเนื่องจากดอกลาเวนเดอร์พันธุ์ทั่วไปนั้นมีกลิ่นที่ไม่แรงมาก ผู้คนจึงนิยมนำมาทำประกอบอาหาร ในขณะที่ Lavendin นั้นนิยมนำมาแปรรูปเป็นเครื่องหอมและกลิ่นที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่างๆ
สาเหตุที่ Valensole Plateau นั้นเป็นบริเวณที่มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่สวยที่สุดนั้นก็เพราะว่าสภาพอากาศและอุณภูมิ ที่ค่อนข้างแห้ง และพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในที่สูง
ฟาร์ม Angelvin Lavender นั้นเปิดมาจนถึงรุ่นที่ 4 แล้วในปัจจุบันนี้ที่นี่ถือว่าเป็นที่แรกที่ทำให้ผู้คนได้รู้จักกับ "สบู่กลิ่นลาเวนเดอร์" จากประเทศฝรั่งเศส ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ประจำเมืองเลยก็ว่าได้ สินค้าทุกชิ้นของทางร้านนั้นจะมีขายเฉพาะที่ร้านนี้เท่านั้น เพื่อเป็นการการันตีในคุณภาพของสินค้า
จากฟาร์ม Angelvin Lavender ไม่ไกลมากนัก เพียงขับรถ 2 นาทีก็จะเจอกับ Terraroma Jaubert ที่แปลว่า "Earth's Aroma" ที่ขายผลิตภัณฑ์ต่างๆเกี่ยวกับดอกลาเวนเดอร์ เป็นดอกลาเวนเดอร์ที่ปลูกในฟาร์มตัวเอง
นอกจากผลิตภัณฑ์จากดอกลาเวนเดอร์แล้ว ผลิตภัณฑ์จากถั่วอัลมอนด์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของเมืองวาลองโซล และที่ Terraroma Jaubert นั้นก็เป็นสถานที่ที่เพอร์เฟคที่สุด ที่จะสามารถหาซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้าน
ผลิตภัณฑ์จากดอกลาเวนเดอร์นั้นมีหลากหลาย อย่างเช่นน้ำมันหอมระเหยเป็นต้น น้ำมันหอมระเหยจากลาเวนเดอร์นั้นมีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาผิวที่เกิดจากการถูกแดดเผา ส่วนน้ำมันหอมระเหยจาก Lavendin นั้นก็มีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาและผ่อนคลายร่างกายจากกลิ่นของมันนั่นเอง อีกทั้งยังช่วยให้หลับสบายขึ้นอีกด้วย
เมื่อขับรถออกมาจาก Terraroma Jaubert ประมาณ 1 ชั่วโมง จะพบตัวเองยืนอยู่ที่กลางทุ่งลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศส ทุ่งลาเวนเดอร์นี้อยู่เลียบถนน D8 จากเมืองวาลองโซลไปยังทางหลวง D953 ใกล้ๆกันกับเมือง Brunet เมื่อไปถึงแล้วจะพบว่ามันคือความใหญ่โตมโหฬารสุดลูกหูลูกตาที่แท้จริงที่เกินจะจินตนาการได้ เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดอย่างไรอย่างนั้น เป็นภาพที่น่าประทับใจเกินจะบรรยาย ในแต่ละปีนั้น ทุ่งลาเวนเดอร์แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวและช่างภาพทั้งหลายจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาเห็นภาพที่แสนอัศจรรย์ใจแบบนี้
ความสวยจะยิ่งทวีคูณเมื่อถึงช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ท้องฟ้า ณ ขณะนั้น ตัดกับสีม่วงสดของดอกลาเวนเดอร์ที่แผ่กิ่งก้านสาขายาวเป็นทุ่งสุดลูกหูลูกตา มองดูแล้วช่างเป็นสีที่อบอุ่นให้ความรู้สึกสบายใจเหลือเกิน โมเม้นต์แบบนี้แหละที่ทุกคนโหยหากันเมื่อมาเที่ยวที่แค้วนโพรวองซ์แห่งนี้
ทุ่งลาเวนเดอร์ในบริเวณนี้มีให้ได้เดินเที่ยวเต็มไปหมด ถึงแม้ว่าแต่ละทุ่งจะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก แต่ก็แนะนำให้เช่ารถขับเที่ยวเพื่อความสะดวกสบาย และห้ามพลาดเด็ดขาดที่อยู่รับชมพระอาทิตย์ตกดินที่ทุ่งลาเวนเดอร์ เมืองใกล้ๆกันอย่างเช่น Gréoux-les-Bains, Riez หรือ Vinon-sur-Verdon ก็สวยงามน่าไปไม่แพ้กัน
เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan
ภาพ: Pierre Ieong