จัดอันดับ 7 ตลาดคริสต์มาสที่น่าไปที่สุดในประเทศฝรั่งเศส

อากาศที่เย็นขึ้น อุณหภูมิต่ำลงเรื่อยๆ นั่นเป็นสัญญาณว่าเดือนธันวาคมนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว ในช่วงนี้จะสังเกตุเห็นได้ว่าร้านรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ ของแต่บ้าน หรือแม้กระทั่งร้านเสื้อผ้าก็ต่างตกแต่งร้านให้เข้ากับเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง เสียงเพลงที่คุ้นเคยและไฟประดับสีสันสดใส ในช่วงใกล้คริสต์มาสแบบนี้ สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆเลยก็คงหนีไม่พ้น "ตลาดคริสต์มาส" ประเทศฝรั่งเศสเป็นอีกประเทศหนึ่งในยุโรปที่จัดงานตลาดคริสต์มาสได้ยิ่งใหญ่อลังการ ไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง จะได้วางแผนท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้พลากสักที่เลย!

 

1. Christmas Capital: Strasbourg 

เวลาทำการ: วันที่ 23 พฤศจิกายนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2018

การเดินทาง: รถไฟความเร็วสูง TGV จากสถานีรถไฟ Gare de l'Est ไปยังสถานี Strasbourg (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที)

เว็บไซต์: www.noel.strasbourg.eu

ตลาดคริสต์มาสที่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) นั้น ตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1570 หรือเกือบ 450 ปีที่แล้ว! ว่ากันว่าเป็นตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงของคริสต์มาส หรือ “Christmas Capital” (Capital de Noël) อีกด้วย ในช่วงนี้ ตลาดคริสต์มาสจะกระจายตัวอยู่ทั่วเมือง ทั้งขนมนมเนยและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆถูกนำมาเรียงขายโดยพ่อค้าแม่ค้ากว่า 300 แผง

 

Alsace Cuisine: Pretzel

Pretzel (Bretzel) เป็นหนึ่งในขนมยอดฮิตของแคว้นอัลซาส (Alsace) เจ้าเพรทเซลนี้จะมีรูปร่างคล้ายผีเสื้อ มีรสชาติเค็ม ตามตลาดคริสต์มาสจะเห็นได้ว่าร้านขายขนมต่างๆจะห้อยเพรทเซลนี้เอาไว้ที่หน้าร้านและเป็นการดึงดูดลูกค้าไปในตัว ที่จัตุรัส Kléber (Place Kléber) นั้น ยังมีต้นคริสต์มาสใหญ่มหึมาตั้งอยู่ อีกทั้งยังมีการแสดงจากศิลปินท้องถิ่นมาเปิดแสดงโชว์ที่จัตุรัสนี้อีกด้วย

นอกจากขนมนมเนยแล้ว เครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลคริสต์มาสก็คือ "ไวน์ร้อน" หรือ Vin Chaud นั่นเอง เจ้าไวน์ร้อนนี้เป็นไวน์ที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศต่างๆ เช่น โป๊ยกั๊ก เม็ดยี่หร่า อบเชย วานิลลา เปลือกส้ม และเลม่อน ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมของคริสต์มาสทั้งสิ้น แค่ไวน์ร้อนๆเพียงหนึ่งแก้ว ก็จะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น พร้อมที่จะเผชิญกับอากาศหนาวอีกครั้ง แอบกระซิบบอกเลยว่า ไส้กรอกที่ตลาดคริสต์มาสนี่อร่อยสุดๆไปเลย

Tips: แก้วไวน์ร้อนนั้นสามารถนำไปรีไซเคิลใช้ใหม่ได้ โดยราคาของไวน์ร้อนจะรวมค่ามัดจำแก้วไปด้วย ประมาณ 1€ เมื่อนำแก้วมาคืนก็จะได้เงินค่ามัดจำแก้วคืนด้วย หรือถ้าอยากเก็บไว้เป็นของที่ระลึกก็ได้นะ

 

2. Magic Christmas: Colmar

เวลาทำการ: วันที่ 23 พฤศจิกายนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2018 / วันจันทร์ถึงวันพฤหัส 10:00-19:00 / วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ 10:00-20:00

(วันที่ 24 ธันวาคม 10:00-17:00 และวันที่ 25 ธันวาคม 14:00-19:00)

การเดินทาง: รถไฟความเร็วสูง TGV จากสถานีรถไฟ Gare de l'Est ไปยังสถานี Colmar (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที)

เว็บไซต์: www.noel-colmar.com

ในปี 2017 ตลาดคริสต์มาสที่เมืองกอลมาร์ (Colmar) นั้นถูกจัดอันดับเป็นตลาดคริสต์มาสที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของยุโรปเลยทีเดียว! ตลาดคริสต์มาสที่เมืองกอลมาร์นี้ มีสโลแกนว่า "Art and Tradition" หรือศิลปะและวัฒนธรรม ที่นี่คุณจะพบเห็นสินค้าต่างๆมากมาย ตั้งแต่เครื่องประดับตกแต่งที่เข้ากับเทศกาลคริสต์มาส สินค้าท้องถิ่นอย่างเช่นน้ำผึ้ง และอาหารอีกมากมาย โดยที่อีกส่วนหนึ่งของตลาด Koïfhus-Marché Interieur ก็จะมีสินค้า handcraft วางขายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปั้นดินเผา, เครื่องแก้ว, เครื่องประดับ และสิ่งทอต่าง 

ตลาดคริสต์มาสที่เมืองกอลมาร์นั้นมีอยู่ 4 ที่หลักๆด้วยกัน นั่นก็คือที่ จัตุรัส Dominicans (Place des Dominicains), จัตุรัส Joan of Arc (Place Jeanne d’Arc), จัตุรัส Ancienne Douane (Place de l’Ancienne Douane) และ Little Venice (Petite Venise) ที่ Little Venice นี้ มีของเล่นทำมือที่ทำจากไม้ อีกทั้งยังมีม้าหมุนที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆด้วย

 

เดินเล่นทอดน่องไปตามตรอกซอกซอยต่างๆที่สองข้างทางเต็มไปด้วยบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ ที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยยุคกลางไปจนถึงศตวรรษที่ 19 ตกเย็นเมื่อพระอาทิตย์ลาลับฟ้าก็จะมีการเปิดไฟให้แสงสว่างพร้อมกับเป็นการประดับตกแต่งไปในตัว นั่นยิ่งทำให้เหมือนราวกับว่ากำลังเดินอยู่ในเทพนิยายอย่างไรอย่างนั้น สมกับชื่อตลาดคริสต์มาสที่มีชื่อว่า "Magic Christmas" (La Magie de Noël)

Tips: ระหว่างเดินเล่นอยู่ในเมือง ถ้าใครโชคดีอาจจะได้พบกับเหล่านักประสานเสียงที่ออกมาร้องเพลง Christmas Carols ให้ผู้คนที่สัญจรไปมาได้ฟังกัน ฟังแล้วก็จะยิ้มตามเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วยังมีกิจกรรมและการแสดงอีกหลายอย่างในเมืองเล็กๆแห่งนี้ อาทิเช่น การชิมไวน์หรือ wine tasting, คอนเสิร์ต, และอีกมากมาย ลองเข้าไปดูที่ official website กันได้ หรือไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tourism Information ที่เมืองกอลมาร์

 

3. Champagne Christmas: Reims

เวลาทำการ: วันที่ 21 พฤศจิกายนถึงวันที่ 28 ธันวาคม 2018

การเดินทาง: รถไฟความเร็วสูง TGV จากสถานีรถไฟ Gare de l'Est ไปยังสถานี Reims Centre (ใช้เวลาประมาณ 46 นาที)

เว็บไซต์: www.reims-tourisme.com/le-marche-de-noel

ตลาดคริสต์มาสที่เมืองแรงส์ (Reims) นั้น ตั้งอยู่ที่หน้าโบสถ์ Our Lady of Reims (Notre-Dame de Reims) มาเดินตลาดคริสต์มาสที่เมืองแห่งแชมเปญนี้ทั้งที จะไม่ชิมแชมเปญเลยก็ไม่ได้ ลองจิบแชมเปญคู่กับบิสกิตสีชมพูหวานแหวว (Biscuit Rosé) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองแรงส์ดู จะพบความเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเจ้าบิสกิตสีชมพูนี้ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 17 โดยส่วนมากแล้วจะถูกนำไปอบทั้งหมด 2 ครั้งเพื่อให้กลิ่นหอมของวานิลลานั้นทวีคูณยิ่งขึ้น และไม่ใกล้ไม่ไกลกันจากตัวโบสถ์นั้น ก็จะพบกับชิงช้าสวรรค์ที่เปิดให้บริการ ด้านบนจะสามารถมองเห็นวิวเมืองแรงส์ได้สุดลูกหูลูกตา พร้อมทั้งไฟประดับประดา สวยงามมากเลยทีเดียว

 

4. Fairy Tale Christmas: Metz

เวลาทำการ: วันที่ 17 พฤศจิกายนถึง 2018 ถึงวันที่ 6 มกราคม 2019

การเดินทาง: รถไฟความเร็วสูง TGV จากสถานีรถไฟ Gare de l'Est ไปยังสถานี Metz Ville (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30นาที)

เว็บไซต์: www.noelmetz.com

เมื่อปีที่แล้ว ตลาดคริสต์มาสที่เมืองเมตซ์ (Metz) นั้นได้เข้าร่วมการแข่งขัน "Europe Best Christmas Market" เป็นครั้งแรก และได้อันดับ 9 มาครองอย่างง่ายดาย โดยตลาดคริสต์มาสที่นี่ตั้งอยู่ตามจัตุรัสต่างๆของเมือง เช่น จัตุรัส Saint-Louis (Place Saint-Louis) โดยมีหอคอยรูปทรงต้นคริสต์มาสที่สูงกว่า 17 เมตรตั้งอยู่ที่ทางเข้า และที่ St-Jacques Center ก็ยังมีตู้จดหมายที่สามารถเขียนจดหมายถึงซานตาคลอสได้

 

มาเยือนตลาดคริสต์มาสที่เมืองเมตซ์ทั้งที ก็ต้องลองชิมขนมปังขิง อีกมือหนึ่งถือไวน์ร้อนสักแก้ว ช่างเข้ากันกับอากาศหนาวเย็นแบบนี้เสียจริงๆ นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีชิงช้าสวรรค์ที่ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Armes (Place d'Armes) ให้ได้ขึ้นไปชมบรรยากาศเมืองจากมุมสูงอีกด้วย และใครที่กำลังมองหา ornaments เพื่อไปตกแต่งต้นคริสต์มาสให้สมบูรณ์แบบนั้น ที่นี่มีร้านรวงมากมายที่วางขายของปรดับตกแต่งนี้ บอกได้เลยว่าเลือกไม่ถูก ต้องตาลายกันไปข้างหนึ่งแน่ๆ

 

5. Colorful Christmas: Mulhouse

เวลาทำการ: วันที่ 24 พฤศจิกายนถึงวันที่ 27 ธันวาคม 2018 (ปิดวันที่ 25 ธันวาคม)

การเดินทาง: รถไฟความเร็วสูง TGV จากสถานีรถไฟ Gare de l'Est หรือ Gare de Lyon ไปยังสถานี Mulhouse Ville (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)

เว็บไซต์: www.noel-mulhouse.fr

ทุกๆปีที่ตลาดคริสต์มาสของเมืองมูว์ลูซ (Mulhouse) นั้น จะมีการดีไซน์ธีมการจัดงานที่แตกต่างกันออกไป ทำให้การประดับตกแต่งตลาดนั้นไม่เหมือนกันเลยสักปี ไม่ว่าจะเป็นที่ศาลาว่าการประจำเมือง ถนนหนทางต่างๆ รวมไปถึงแผงลอยขายของและต้นคริสต์มาส เมื่อมาถึงที่เมืองมูว์ลูซแล้ว ก็ต้องไม่พลาดที่จะไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่ทำมาจากผ้า Alsace 100% เรียกได้ว่าเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่เลยก็ว่าได้ อย่างเช่นปีนี้ สีที่กำลังมาแรงในช่วงคริสต์มาสคือสี Royal Blue และสีทอง

Tips: เครื่องประดับตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาสนี้มีหลากหลาย ไม่ได้มีแค่เหล่า ornaments สำหรับต้นคริสต์มาสเท่านั้น แต่ยังมี ผ้าปูโต๊ะ ผ้ากันเปื้อน ผ้าเช็ดปาก และอีกมากมาย ที่คุณสามารถนำมาตกแต่งภายในบ้านให้เข้ากับเทศกาลแห่งความสุขนี้

 

6. Christmas in South of France: Aix-en-Provence 

เวลาทำการ: วันที่ 21 พฤศจิกายนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2018 (วันที่ 25 ธันวาคม 14:00-20:00)

การเดินทาง: รถไฟความเร็วสูง TGV จากสถานีรถไฟ Gare de Lyon ไปยังสถานี Aix-en-Provence Centre (ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 40 นาที) หลังจากนั้นต่อรถบัสสาย 40 ไปยังตัวเมือง (ตั๋สรถบัสราคา 4.30€ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที)

เว็บไซต์: www.aixenprovencetourism.com

ที่แคว้นโพรวองซ์นั้น ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส โดยในช่วงเทศกาลแบบนี้ ตลาดคริสต์มาสจะถูกตั้งขึ้นที่ใจกลางเมืองทำให้ถนนเส้นนั้นกลายเป็นถนนที่สวยที่สุดในเมืองเลยทีเดียว โดยถนนเส้นที่ว่าก็คือ Cours Mirabeau นั่นเอง ที่ตลาดจะเต็มไปด้วยแผงลอยขายของมากมาย ขนมนมเนย โชว์พาเหรด คอนเสิร์ต และการแสดงอีกนับไม่ถ้วน และสิ่งที่เป็นจุดเด่นของแคว้นทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศสนั่นก็คือ Santons de Crèche หรือเจ้าตุ๊กตาดินน้ำมันตัวจิ๋วที่จำลองสถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ น่ารักน่าซื้อสะสมเอาไว้มากๆ

 

7. Christmas Lights: Montbéliard

เวลาทำการ: วันที่ 24 พฤศจิกายนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2018

การเดินทาง: รถไฟความเร็วสูง TGV จากสถานีรถไฟ Gare de Lyon ไปยังสถานี Belfort Montbeliard (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที)

เว็บไซต์: www.lumieres-de-noel.fr

เมืองมงเบลียาร์ (Montbéliard) นั้นอาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูกันนัก เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของประเทศฝรั่งเศสในแคว้นบูร์กอญ-ฟร็องช์-กงเต (Bourgogne-Franche-Comté) ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่ง Christmas Light หรือ Les Lumières de Noël นั่นเอง โดยเมื่อตะวันลาลับขอบฟ้า ไฟอันสวยงามก็ต่างเริ่มจุดตัวเองขึ้นเพื่อประดับประดาให้บ้านเมืองเก่าแก่นี้มีสีสันมากยิ่งขึ้น 

ตลาดคริสต์มาสของที่นี่นั้นตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Saint-Martin มีร้านค้ามาออกร้านกว่า 160 ร้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนมหวาน และงานฝีมือจากช่างมากหน้าหลายตา โดยไม่ได้มีแค่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่มาออกร้าน ยังมีเหล่าพ่อค้าแม่ค้าจากทั่วทุกสารทิศที่มาร่วมออกร้านด้วย เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณพบเห็นพ่อค้าแม่ค้าชาวอังกฤษ ไอริช อิตาเลียน โปรตุเกส หรือแม้กระทั่งพ่อค้าที่มาจากแคว้นบริททานี (Brittany) ถึงตลาดคริสต์มาสที่นี่จะเล็กและยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรนัก แต่เมืองมงเบลียาร์ได้เข้าร่วมการแข่งขัน "Europe Best Christmas Market" และได้อันดับ 6 มาครอบครองอย่างง่ายดาย เป็นรองเพียงตลาดคริสต์มาสที่เมืองสตราสบูร์กเท่านั้น

 

O'BON PAIRS' NOTE

ที่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ตลาดคริสต์มาสที่เมืองลียง (Lyon) ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ถ้าหากมีโอกาสได้ผ่านไปทางใต้ ก็ลองไปเดินเล่น ชิมเครปร้อนๆราดด้วยซอสเฮเซลนัทหวานหอมดูกันได้ นอกจากนั้นแล้ว ตลาดคริสต์มาสที่ประเทศอื่นๆในยุโรปก็สวยงามและเต็มไปด้วยบรรยากาศคริสต์มาสเช่นกัน อย่างเช่นที่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) ประเทศเยอรมัน, เมืองเวียนนา (Vienna) ประเทศออสเตรีย, กรุงปราก (Prague) สาธารณรัฐเช็ก และเมืองบรัสเซลส์ (Brussels) ประเทศเบลเยี่ยมเป็นต้น

 


เรื่อง: Hanqi Li และ Lexi Wang

แปล: Aphinya Kasemsukphaisan