ไกด์บุ้คเที่ยวฟลอเรนซ์

2 วันตะลุยเมืองแห่งศิลปะ

เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองหลวงแห่งแคว้นทัสคานี (Tuscany) ประเทศอิตาลี เป็นหนึ่งในเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเยอะที่สุดอิตาลี ต่อจากกรุงโรม (Rome) และเมืองเวนิส (Venice) ที่เมืองฟลอเรนซ์นั้นมีหลากหลายสิ่งที่โดดเด่นออกมาจากเมืองอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมครื่องหนัง สเต็กทีโบน และพิพิธภัณฑ์หอศิลป์อุฟฟีซี เป็นต้น ถึงแม้ว่าฟลอเรนซ์จะเป็นเมืองเล็กๆ ไม่ใหญ่โตเท่ากรุงโรม หากแต่ว่าก็มีกิจกรรมมากมายให้เลือกทำ ตั้งแต่เดินชมผลงานศิลปะต่างๆไปจนกระทั่งช้อปปิ้ง และจุดเด่นของเมืองนี้ก็คือหลังคือบ้านสีส้มอิฐที่เมื่อมองออกไปทีไรก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทุกที

 เที่ยวฟลอเรนซ์วันแรก

 

 Florence Duomo, มหาวิหารฟลอเรนซ์ CATHEDRAL OF SANTA MARIA DEL FIORE

1

มหาวิหารฟลอเรนซ์

สถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองฟลอเรนซ์ก็คือมหาวิหารฟลอเรนซ์ (Cathedral of Santa Maria del Flore) หรืออีกชื่อหนึ่งว่าดูโอโม่ (Duomo) โดยในภาษาอิตาเลียนแปลว่า "โบสถ์" ชื่ออย่างเป็นทางการคือ  Cattedrale di Santa Maria del Fiore รูปร่างของโบสถ์นั้นเป็นเหมือนภาพวาด ในยุคสมัยที่ฟลอเรนซ์กำลังรุ่งเรืองเมื่อสมัยศตวรรษที่ 13 ทางเมืองฟลอเรนซ์ต้องการที่จะสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ใช้เวลา 140 ปีในการสร้าง ด้านนอกของตัวโบสถ์นั้นเป็นสีขาว เขียว และแดง ทำมาจากหินอ่อนเป็นหลัก โดมสีแดงตรงกลางเป็นสัญลักษณ์สำคัญของตัวโบสถ์ ในขณะนั้น ทางเมืองฟลอเรนซ์ได้เปิดให้ผู้คนร่วมดีไซน์โดมของตัวโบสถ์ และ Filippo Brunelleschi ก็เป็นผู้ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะ ในสมัยนั้น โดมรูปทรงแปดเหลี่ยมค่อนข้างที่จะสร้างยาก เพราะในขณะนั้นมันจะต้องสร้างด้วยอิฐเท่านั้นโดยไม่มีกำแพงรองรับภายนอก

เมื่อไปถึงที่มหาวิหารฟลอเรนซ์ คุณจะต้องขึ้นไปยังด้านบนโดมเพื่อชมวิวเมืองที่สวยงามของฟลอเรนซ์ บันไดทั้งหมด 463 ขั้นจะมีความหมายขึ้นมาทันทีเมื่อคุณขึ้นไปถึงและมองลงมายังวิวเมืองที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ตัวมหาวิหารฟลอเรนซ์เปิดให้เข้าฟรี แต่ถ้าหากต้องการจะขึ้นไปด้านบนจะต้องซื้อตั๋ว ด้วยความที่มหาวิหารฟลอเรนซ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญประจำเมือง ทางเราแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าคุณควรที่จะซื้อตั๋วล่วงหน้าสำหรับขึ้นไปด้านบน คุณสามารถกำหนดวันและเวลาที่คุณต้องการได้และต้องไปให้ตรงเวลาด้วย นอกจากนั้นแล้ว ด้วยตั๋วใบนี้คุณยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Opera of Saint Maria of Flore และหอระฆัง Giotto ได้ฟรี

ในขณะที่คุณกำลังดื่มด่ำความสวยงามของมหาวิหารฟลอเรนซ์อยู่นั้น ให้ระมัดระวังตัวและของมีค่าเอาไว้ตลอดด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีนักล้วงกระเป๋ามากมาย อีกทั้งคุณยังอาจจะเดินไปเหยียบบนผลงานภาพวาดของศิลปินริมทางเอาโดยไม่รู้ตัว ศิลปินเหล่านี้นำภาพวาดราคาถูกมาวางไว้ตามพื้นดินเพื่อหลอกล่อให้นักท่องเที่ยวเหยียบย่ำ และเมื่อคุณเหยียบลงไปและทำให้ผลงานเสียหาย พวกเขาก็จะมีข้ออ้างเพื่อเรียกเก็บเอาเงินคุณได้ง่ายๆไม่ว่าภาพวาดจะมีราคาถูกแค่ไหนก็ตาม และถ้าหากคุณปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน พวกเขาก็จะหาทางให้คุณจ่ายเงินจนได้ ทางที่ดีก็ขออย่าให้เป็นคุณที่ตกเป็นเหยื่อ แต่ถ้าหากคุณตกเป็นเหยื่อแล้ว อย่าหยิบเงินออกมาจ่ายให้พวกเขาเหล่านั้นเป็นอันขาด ให้คุณร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นจะดีกว่า

   

ที่อยู่: Via della Canonica, 1, Firenze

เวลาทำการ: โบสถ์ Santa Maria del Fiore 10:00-16:30 / หลังคาโดม 08:30-19:00 / พิพิธภัณฑ์ Opera of Saint Maria of Fiore 09:00-19:00 (ปิดทุกวันอังคารแรกของเดือน) / หอระฆัง Giotto 08:15-19:00

ราคา: ผู้ใหญ่ 18€ / เด็กอายุระหว่าง 6-11 ปี 5€ / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าฟรี / จองตั๋วล่วงหน้าจ่ายเพิ่ม 2€ ต่อคน

เว็บไซต์: www.grandemuseodelduomo.waf.it

 

พิพิธภัณฑ์ UFFIZI ฟลอเรนซ์

2

พิพิธภัณฑ์หอศิลป์อุฟฟีซี

พิพิธภัณฑ์หอศิลป์อุฟฟีซีหรือ Uffizi Gallery เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ชื่อดังที่สุดในประเทศอิตาลีและถือว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเมือมาเยือนเมืองฟลอเรนซ์ คำว่า "Uffizi" ในภาษาอิตาเลียนนั้นแปลว่า "ออฟฟิศ" ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์หอศิลป์นั้น ที่นี่เคยเป็นอาคารสำหรับ Administrative Office of the Republic of Florence มาก่อน

จากภาพวาดยุคเรเนซองส์ (Renaissance) ไปจนถึงภาพเขียนสไตล์บาโรก (Baroque) และโรโคโค (Rococo) ก็มีให้ชมที่พิพิธภัณฑ์หอศิลป์แห่งนี้ ที่นี่เต็มไปด้วยผลงานศิลปะกว่า 2,500 ชิ้น เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและชาวท้องถิ่นเองที่มาเดินชมผลงานศิลปะสไตล์ต่างๆ แนะนำว่าควรมาเข้าชมในช่วงเช้าและซื้อตั๋วล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงคิวที่ยาวเหยียดและผู้คนที่เบียดเสียด

ภาพวาดชื่อดังมากมายจะถูกตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ทางเราจึงแนะนำให้ไปเริ่มต้นเดินชมที่ชั้น 3 แล้วค่อยๆไต่ระดับลงมา โดยผลงานที่ห้ามพลาดมีดังนี้ Primavera และ The Birth of Venus โดย Botticelli, The Duke and Duchess of Urbino โดย Piero della Francesca, The Trinity, the Virgin and Two Saints โดย Luca Signorelli และ Annunciation โดย Leonardo da Vinci 

 

ที่อยู่: Piazzale degli Uffizi, 6, 50122 Firenze FI

เวลาทำการ: วันอังคารถึงวันอาทิตย์ 08:15-18:50 (ปิดทุกวันจันทร์ วันที่ 1 มกราคมและวันที่ 25 ธันวาคม)

ราคา: เดือนมีนาคมถึงตุลาคม ผู้ใหญ่ 20€ / เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ผู้ใหญ่ 12€ / พลเมืองยุโรปอายุระหว่าง 18-25 ปี 2€ / เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าฟรี / จองตั๋วล่วงหน้าจ่ายเพิ่ม 4€ ต่อคน

เว็บไซต์: www.uffizi.it

 

ร้านอาหาร OSTERIA SANTO SPIRITO ฟลอเรนซ์

3

ร้านอาหาร OSTERIA SANTO SPIRITO

เมื่อมาถึงประเทศอิตาลีก็ต้องมาลองรับประทานพาสต้าเส้นทำมือกันหน่อย พาสต้าเส้นทำมือนั้นจะแตกต่างจากพาสต้าทั่วไป เนื่องจากพาสต้าเส้นทำมือนั้นจะนุ่มและอร่อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ที่ร้าน Osteria Santo Spirito นั้นเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของเส้นพาสต้าทำมือ ร้านอาหารอาจจะตั้งอยู่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวไปเสียหน่อย หากแต่ว่าคุณก็จะได้บรรยากาศความเป็นท้องถิ่นมากขึ้น 

เมนูของทางร้านนั้นมีมากมายให้เลือก ตั้งแต่จานเรียกน้ำย่อยต่างๆ ไปจนถึงอาหารชื่อดังอย่างลาซานญ่า เมนูชื่อดังของทางร้านจะมี ยอกกี้ (Gnocchi), สปาเกตตี้หอยลาย (Vongole) และสเต็กทีโบน เมนูยอกกี้อาจจะไม่คุ้นหูหลายๆคน ยอกกี้นั้นมีเนื้อสัมผัสคล้ายกับเค้กมันฝรั่ง ทำมาจากแป้งมันฝรั่งที่จะทำให้ตัวยอกกี้นั้นเหนียวนุ่ม เทนูยอกกี้ของร้าน Osteria Santos Spirito นั้นจะถูกนำไปอบพร้อมกับชีส ทำให้ทั้งหอมและนุ่ม ส่วนสปาเกตตี้หอยลายก็หอมนุ่มและเต็มไปด้วยหอยลายที่ทางร้านให้มาอย่างเต็มที่

  

ที่อยู่: Piazza Santo Spirito, 16/R, 50125 Firenze

การเดินทาง: รถบัสสาย C4 สถานี Santo Spirito หรือเดินเท้า 7 นาทีจากสะพาน Ponte Vecchio

เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 12:00-23:30

 

สิ่งที่ต้องทำในฟลอเรนซ์ สะพาน PONTE VECCHIO

4

สะพานเวคคิโอ

สะพานเวคคิโอหรือ Ponte Vecchio ในภาษาอิตลีหมายถึง "สะพานเก่า" แม่น้ำอาร์โน (Arno) ในเมืองฟลอเรนซ์นั้นเต็มไปด้วยสะพานมากมาย หากแต่ว่าสะพานเวคคิโอแห่งนี้เป็นสะพายที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด สะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อยุคสมัยกลาง เชื่อมต่อหอศิลป์อุฟฟีซีเข้ากันกับ Petit Palace โดยบนตัวสะพานนั้นจะเต็มไปด้วยร้านขายของมากมาย โดยร้านค้าเหล่านี้ในอดีตเคยถูกใช้เป็นร้านขายเนื้อมาก่อน แต่ในปัจจุบันนั้นถูกปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นร้านขายเครื่องประดับ เพชรนิลจินดา และศิลปะราคาแพง ที่นี่เป็นที่รู้จักกันในฐานะสะพานเดียวที่ไม่ถูกทำลายเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่บนสะพานหรือมองดูสะพานจากมุมไกลก็ดูสวยไปเสียทุกมุม

นอกจากนั้นยังมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจเกี่ยวกับสะพานเวคคิโอแห่งนี้ด้วย นั่นก็คือเรื่องราวความรักของ Dante จากเรื่อง Divine Comedy ย้อนกลับไปเมื่อ Dante อายุได้เพียง 9 ปี เขาได้พบกับหญิงสาวรูปงามคนหนึ่งชื่อว่า Beatrice ที่งานเทศกาลและได้ตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง 9 ปีต่อมา Dante ก็ได้มีโอกาสพบ Beatrice อีกครั้งที่สะพานเวคคิโอแห่งนี้

 

ที่อยู่: Ponte Vecchio, 50125 Firenze FI

 

จัตุรัสรีพับลิค REPUBLIC SQUARE

5

จัตุรัสรีพับลิค

จัตุรัสรีพับลิค (Republic Square) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิหารฟลอเรนซ์ จุดเด่นของที่นี่ก็คือจะมีม้าหมุนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง ห้อมล้อมไปด้วยสถานที่ช้อปปิ้งและร้านอาหารมากมายทั่วจัตุรัส ที่ตรงนี้เต็มไปด้วยสีสันของเมือง ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีเปิดหมวกหรือคนที่มาทำการแสดงเพื่อเรียกเสียงฮือฮาจากสาธารณะชน เมื่อเดินเที่ยวในเมืองฟลอเรนซ์ คุณจำเป็นจะต้องผ่านจัตุรัสแห่งนี้อย่างน้อย 1 ครั้งอย่างแน่นอน

 

ที่อยู่: Piazza della Repubblica, 50123 Firenze FI
 

คาเฟ่ในฟลอเรนซ์ Cafe Gilli

6

คาเฟ่ CAFE GILLI

คาเฟ่ที่เก่าแก่ที่สุดในฟลอเรนซ์และเป็นคาเฟ่ชื่อดัง ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 1733 ตั้งอยู่ในจัตุรัสรีพับลิค แรกเริ่มเดิมทีแล้วที่นี่เป็นเพียงร้านเบเกอรี่ที่ขายขนมหวานและเค้ก แต่ก็ได้รับการพัฒนาเรื่อยมาจนกลายมาเป็นคาเฟ่เมื่อร้านได้โยกย้ายโลเคชั่นในช่วงปี 1900s นักเขียนชื่อดัง นักปราชญ์ และศิลปินมากมายต่างก็เคยเดินทางมาที่คาเฟ่แห่งนี้แล้วทั้งสิ้น จนทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดที่เมืองฟลอเรนซ์

การตกแต่งด้านในร้านนั้นเน้นเอาบรรยากาศความหรูหราและคลาสสิค ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นได้เป็นอย่างดี ราคาของคาเฟ่นี้อาจจะสูงกว่าคาเฟ่อื่นๆ หากแต่ว่ากาแฟ เครื่องดื่ม และขนมหวานที่นี่นั้นการันตีได้ถึงคุณภาพที่ดีเยี่ยม

 

ที่อยู่: Via Roma, 1r, 50123 Firenze FI

เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 07:30-00:00

 

ตลาด Central Market / ตลาดเครื่องหนัง ฟลอเรนซ์

7

ตลาดเครื่องหนังและ CENTRAL MARKET

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเมืองฟลอเรนซ์ก็คือตลาดเครื่องหนัง เมืองฟลอเรนซ์นั้นโด่งดังมาจากผลิตภัณฑ์เครื่องหนังคุณภาพดีในราคาที่สมเหตุสมผล ร้านขายเครื่องหนังสามารถพบเจอได้ทั่วไปตามท้องถนนในเมืองนี้ และคุณสามารถลองต่อราคากับเหล่าพ่อค้าได้ สินค้าเครื่องหนังเหล่านี้มีมาในทุกรูปแบบและการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจ ข้อมือ กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าเดินทาง เข็มขัด และอีกมากมาย

และที่ตลาด Central Market นั้นตั้งอยู่ติดกันกับตลาดเครื่องหนังเลย ด้านในเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านขายวัตถุดิบต่างๆ คุณสามารถแวะเวียนมารับประทานอาหานท้องถิ่นที่นี่ได้ในราคาที่ไม่แพง นอกจากนั้นแล้วยังมีของที่ระลึกอีกมากมายที่วางขายอยู่ที่ด้านในตลาด

  

ที่อยู่: Piazza del Mercato Centrale – Via dell’Ariento, 50123 Firenze FI

เวลาทำการ: ตลาด Central Market เปิดทุกวัน 08:00-00:00 / ตลาดเครื่องหนัง เปิดทุกวัน 10:00-19:00 (อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับฤดูกาล)

  

ร้านสเต็กเนื้อในฟลอเรนซ์ : DALL'OSTE

8

ร้านอาหาร DALL'OSTE

เมนูที่โด่งดังมากๆของเมืองฟลอเรนซ์ก็คงจะหนีไม่พ้นสเต็กทีโบน ที่นี่เต็มไปด้วยร้านสเต็กทีโบน หากแต่ว่าถ้าคุณกำลังตามหาร้านอาหารที่เสิร์ฟสเต็กทีโบนที่ดีที่สุดก็ต้องมาที่ร้าน Dall'oste แห่งนี้เลย ทางร้านมีทั้งหมด 5 สาขาทั่วเมืองฟลอเรนซ์ ไม่ว่าจะเป็นที่โบสถ์ San Lorenzo, จัตุรัสรีพับลิค และอีกที่หนึ่งไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ทางร้านมีการคัดสรรเนื้ออย่างดีจากฟาร์มและมีเนื้อทั้งหมด 8 ส่วนด้วยกันให้เลือก ยกเว้นเนื้อเซอร์ลอยและเนื้อแองกัสที่มาจากแคว้นทัสคานี (Tuscany) โดยทั่วไปแล้วสเต็กทีโบนจะเสิร์ฟ 1 กิโลกรัมต่อ 1 คน ซึ่งอาจจะเป็นปริมาณที่เยอะเกินไปสำหรับคนไทน ถ้าหากคุณกำลังจะออกเดินทางไปเที่ยวคนเดียว คุณสามารถสั่งเซ็ตเมนูอาหารกลางวันได้ ซึ่งจะมีราคาที่ถูกกว่าและมีในปริมาณที่เหมาะสม ที่ร้านนี้มักจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวแล้วคนท้องถิ่น แนะนำว่าควรสำรองที่นั่งผานเว็บไซต์ไปก่อน

 

ที่อยู่: Borgo S. Lorenzo, 31r, 50122 Firenze FI (San Lorenzo)

เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 11:00-22:30

เว็บไซต์: www.trattoriadalloste.com

 

 

เที่ยวฟลอเรนซ์วันที่ 2 

 

หอศิลป์อะคาเดเมีย ฟลอเรนซ์

1

หอศิลป์อะคาเดเมีย

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์ก็คงจะหนีไม่พ้นที่หอศิลป์อะคาเดเมีย หรือ Gallery of the Academy of Florence สถานที่ที่คุณห้ามพลาดเป็นอันขาด ถึงแม้ว่าด้านในจะมีขนาดเล็ก หากแต่ว่ามีรูปปั้นชื่อดังตั้งอยู่ รูปปั้นของเดวิด (David) โดยศิลปินผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปินที่มีฝีมือดีที่สุดในประเทศอิตาลี นั่นก็คือไมเคิลแองเจโล (Michelangelo) นั่นเอง เดวิดนั้นเป็นผู้ที่สามารถเอาชนะยักษ์ Goliath ได้ ผู้ที่ซึ่งมีขนาดตัวที่ใหญกว่าเขาหลายเท่าตัว และด้วยเสียงเรียกร้องจากศาลาว่าการประจำเมืองฟลอเรนซ์ การสร้างรูปปั้นเดวิดขนาดความสูง 5.17 เมตรก็ต้องตกเป็นหน้าที่ของไมเคิลแองเจโล ผู้ที่เป็นศิลปินที่มีฝีมือดีที่สุดในประเทศอิตาลีในช่วงเวลานั้น เขาใช้เวลากว่า 3 ปีในการสร้าง ตั้งแต่ปี 1501 และแล้วเสร็จในปี 1504 แรกเริ่มเดิมทีนั้น รูปปั้นนี้ถูกตั้งอยู่ที่ใจกลางจัตุรัสหน้าพระราชวังเวคคิโอ (Palace of Vecchio) หลังจากนั้นก็ถูกโยกย้ายมาตั้งเอาไว้ที่ Plaza of Signoria และในปี 1873 รูปปั้นเดวิดก็ถูกโยกย้ายมาตั้งไว้ที่หอศิลป์อะคาเดเมียแห่งนี้มาจนถึงปัจจุบัน รูปปั้นของเดวิดนั้นถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ มีความหมายต่อประชาชนชาวฟลอเรนซ์เป็นอย่างมาก เมื่อสมัยก่อนในช่วงที่ชาวฟลอเรนซ์ต้องช่วยกันปกป้องเมืองจากอำนาจของพระสันตะปาปาและจักรพรรดิ์ พวกเขาก็ได้ใช้รูปปั้นของเดวิดเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจมาตลอด

รูปปั้นรูปนี้มีความแตกต่างจากรูปปั้นที่แสดงถึงช่วงเวลาแห่งชัยชนะขณะที่เดวิดกำลังถือศีรษะของ Goliath โดยที่รูปปั้นรูปนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของนักรบที่มองเห็นการต่อสู้อยู่ข้างหน้า ถ้าหากคุณสังเกตดีๆ คุณจะมองเห็นดวงตาที่สื่อให้เห็นถึงอารมณ์และเส้นเลือดและมัดกล้ามเนื้อต่างๆที่จะทำให้คุณรู้สึกประทับใจยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า และเหตุผลที่รูปปั้นเดวิดนั้นจะต้องเป็นรูปปั้นเปลือย นั่นก็เป็นเพราะว่าไมเคิลแองเจโลต้องการที่จะสื่อให้เห็นถึงความสวยงามของร่างกายมนุษย์ในยุคเรเนซองส์นั่นเอง

 

ที่อยู่: Via Ricasoli, 58/60, 50122 Firenze FI

เวลาทำการ: วันอังคารถึงวันอาทิตย์ 08:15-18:50 (ปิดทุกวันจันทร์ วันที่ 1 มกราคมและวันที่ 25 ธันวาคม)

ราคา: ผู้ใหญ่ 12€ / พลเมืองยุโรปอายุระหว่าง 18-25 ปี 2€ / อายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าฟรี / จองตั๋วล่วงหน้าจ่ายเพิ่ม 4€ ต่อคน

เว็บไซต์: www.galleriaaccademiafirenze.beniculturali.it

 

โบสถ์ SANTA MARIA NOVELLA ฟลอเรนซ์

2

โบสถ์ SANTA MARIA NOVELLA

โบสถ์ Santa Maria Novella เป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเมืองฟลอเรนซ์ ด้านหน้าของโบสถ์มีรูปร่างโค้งสวยงาม เมื่อครั้งที่ไมเคิลแองเจโลได้เห็นโบสถ์นี้ เขาก็ได้บรรยายความสวยงามของโบสถ์แห่งนี้ว่าเป็นเสมือนเจ้าสาวของเข้า ("My bride") ด้านในโบสถ์นั้นเต็มไปด้วยผลงานศิลปะสไตล์เฟรสโก้ (Fresco) ผลงานชื่อดังคือผลงานที่ชื่อว่า Trinity โดย Masaccio

นอกจากนั้นโบสถ์แห่งนี้ยังมีชื่อเสียงโด่งดังจากเครื่องสำอาง นักบวชที่นี่ได้เริ่มทำเครื่องสำอางขึ้นมาเพื่อการบำบัด จนมาถึงปัจจุบันนี้ได้กลายมาเป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่วางขายอยู่ในร้านขายยาภายในโบสถ์ ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นนั้นผลิตขึ้นมาจากสูตรดั้งเดิมของนักบวช โดยมีผลิตภัณฑ์มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สบู่ และน้ำหอม ถ้าหากคุณต้องการจะซื้อสินค้าเหล่านี้ คุณจะต้องเดินทางไปที่ร้านขายยาที่ตั้งอยู่ที่ด้านข้างของโบสถ์

 

ที่อยู่: Piazza di Santa Maria Novella, 18, 50123 Firenze FI

เวลาทำการ: เดือนตุลาคมถึงมีนาคม - วันจันทร์ถึงวันพฤหัส 09:00-17:30 / วันศุกร์ 11:00-17:30 / วันเสาร์และวันก่อนวันหยุดทางศาสนา 09:00-17:30 / วันอาทิตย์และวันหยุดทางศาสนา 13:00-17:30

เดือนเมษายนถึงมิถุนายน - วันจันทร์ถึงวันพฤหัส 09:00-19:00 / วันศุกร์ 11:00-19:00 / วันเสาร์และวันก่อนวันหยุดทางศาสนา 09:00-17:30 / วันอาทิตย์และวันหยุดทางศาสนา 13:00-17:30

เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม - วันจันทร์ถึงวันพฤหัส 09:00-19:00 / วันศุกร์ 11:00-19:00 / วันเสาร์และวันก่อนวันหยุดทางศาสนา 09:00-18:30 / วันอาทิตย์และวันหยุดทางศาสนา 12:00-18:30

เดือนกันยายน - วันจันทร์ถึงวันพฤหัส 09:00-19:00 / วันศุกร์ 11:00-19:00 / วันเสาร์และวันก่อนวันหยุดทางศาสนา 09:00-17:30 / วันอาทิตย์และวันหยุดทางศาสนา 12:00-17:30

***หมายเหตุ: วันหยุดทางศาสนาคือวันที่ 1 และ 6 มกราคม, วันที่ 15 สิงหาคม, วันที่ 1 พฤศจิกายน, วันที่ 8 และ 25 ธันวาคม และวันอีสเตอร์ วันที่ 21 เมษายน / ประตูปิด 45 นาทีก่อนเวลาปิดทำการ

ราคา: ผู้ใหญ่ 7.50€ / อายุระหว่าง 11-18 ปี 5€ / เด็กอายุต่ำกว่า 11 ปีเข้าฟรี 

 

ร้านอาหาร ฟลอเรนซ์ : OSTERIA PASTELLA พาสต้าเห็ดทรัฟเฟิล

3

ร้านอาหาร OSTERIA PASTELLA

อีกหนึ่งร้านอาหารชื่อดังสำหรับพาสต้าทำมือก็คือที่ร้าน Osteria Pastella ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างมหาวิหารฟลอเรนซ์ จากด้านนอกคุณจะเห็นพ่อครัวที่กำลังนวดแป้งพาสต้าอย่างขมักเขม้น และบรรยากาศร้านอาหารที่หรูหราและสวยงาม

เมนูชื่อดังของทางร้านคือพาสต้าทรัฟเฟิล ที่เต็มไปด้วยชีส Grana Padano และเห็ดทรัฟเฟิลที่พ่อครัวใส่มาให้ไม่ยั้งมือ เมื่อคุณสั่งเมนูนี้ ทางพนักงานจะยกเอาชีสชิ้นมหึมามาตั้งไว้ที่โต๊ะและทำการนำวัตถุดิบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเส้นพาสต้าและน้ำมันมะกอก นำลงไปในชีสชิ้นนั้นและทำการคลุกเคล้าให้เข้ากันจนชีสละลาย หลังจากนั้นก็ขูดเห็ดทรัฟเฟิลลงไป รสชาติของชีสบวกกับกลิ่นของเห็ดทรัฟเฟิลที่หอมละมุน ทำให้พาสต้าจานนี้พิเศษยิ่งกว่าจานไหนๆ นอกจากรสชาติอาหารที่อร่อยแล้ว ทางร้านยังมีบรรยากาศที่เป็นกันเองและสนุกสนาน และเป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านอาหารในยุโรปที่มี Finger Food เครื่องดื่มต้อนรับ และเครื่องดื่มหลังมื้ออาหารให้ด้วย ซึ่งหาได้ยากในยุโรป

 

ที่อยู่: Via della Scala, 17 R, 50123 Firenze FI

การเดินทาง: เดินเท้า 3 นาทีจากโบสถ์ Santa Maria หรือเดินเท้า 8 นาทีจากมหาวิหารฟลอเรนซ์

เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 12:00-14:30 และ 19:00-22:30

  

จัตุรัสไมเคิลแองเจโล ฟลอเรนซ์

4

จัตุรัสไมเคิลแองเจโล

จัตุรัสไมเคิลแองเจโล (Michelangelo Square) เป็นสถานที่ชมวิวเมืองฟลอเรนซ์ที่ดีที่สุด เป็นที่ที่คุณสามารถชมวิวเมืองได้แบบพาโนรามา ที่นี่มีรูปปั้นจำลองของเดวิดโดยไมเคิลแองเจโลตั้งอยู่ด้วย ที่นี่ดึงดูดเอานักท่องเที่ยวให้เดินทางมาที่นี่ทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน แนะนำว่าให้เดินทางในช่วงก่อนที่พระอาทิตย์จะตกหรือตอนกลางคืนเพื่อชมวิวตอนกลางคืน แค่เพียงยืนชมวิวที่นี่ก็จะทำให้คุณยิ้มออกมาได้โดยไม่รู้ตัวเลยทีเดียว

 

ที่อยู่: Piazzale Michelangelo, 50125 Firenze FI

การเดินทาง: เดินเท้า 25 นาทีจากมหาวิหารฟลอเรนซ์ / รถบัสสาย C1 สถานี Diaz เดินเท้าต่ออีกประมาณ 15 นาที หรือรถบัสสาย 13 สถานี Il David

 

สวนกุหลาบ ฟลอเรนซ์

5

สวนกุหลาบ

สวนกุหลาบนั้นตั้งอยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสไมเคิลแองเจโล เพียงเดินเท้าไม่กี่นาที ที่นี่เป็นสวนดอกไม้เล็กๆและเปิดให้เข้าฟรี ที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่คุณสามารถชมวิวเมืองฟลอเรนซ์ได้อย่างสบายใจ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและซัมเมอร์นั้น ต้นไม้ ดอกไม้ จะแย่งกันบานสะพรั่ง ทำให้เกิดสีสันสดใสมากมายเต็มไปหมด พันธุ์ไม้กว่า 1,200 ชนิดและพันธุ์กุหลาบอีกกว่า 400 ชนิดต่างแสดงความสวยงามกันอย่างไม่หยุดหย่อน มานั่งเล่นที่ม้านั่งพลางชมวิวและพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างสบายอารมณ์

 

ที่อยู่: Viale Giuseppe Poggi, 2, 50125 Firenze FI

เวลาทำการ: วันจันทร์ถึงวันเสาร์ 09:00-17:00 / วันอาทิตย์ 10:00-17:00

  


เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan

ภาพ: Yuna LEE