Épernay

สถานที่พักผ่อนสำหรับผู้หลงใหลแชมเปญ

Champagne ฝรั่งเศส

« Épernay, c’est la ville du vin de Champagne. Rien de plus, rien de moins. »
(Épernay เป็นเมืองแห่งแชมเปญ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ไม่น้อยไปกว่านี้)
— Victor Hugo (วิคเตอร์ ฮิวโก้), แม่น้ำไรน์, 21 กรฎาคม 1842

ประเทศฝรั่งเศสเป็นที่รู้จักดีในเรื่องของไวน์ และแชมเปญก็เป็นเครื่องดื่มที่ถือว่าเป็นอัญมณีในหมวดหมู่ของไวน์ ต้นกำเนิดของแชมเปญมีที่มาจากแคว้นแชมเปญ (Champagne หรือช็องปาญ) ในประเทศฝรั่งเศส สปาร์กลิ้งไวน์ผลิตจากพันธุ์องุ่นที่มีลักษณะเฉพาะและใช้กรรมวิธีการผลิตที่เป็นแบบเฉพาะของแคว้นแชมเปญ  นั่นจึงเป็นสาเหตุให้สปาร์กลิ้งไวนชนิดนี้มีชื่อเรียกว่าแชมเปญตามชื่อสถานที่ต้นกำเนิดนั่นเอง

การผลิตไวน์ในฝรั่งเศส

แคว้นแชมเปญแบ่งเป็น 4 พื้นที่ใหญ่ๆ ได้แก่  Montagne de Reims ทางเหนือของแคว้น, Vallée de la Marne ตามแนวแม่น้ำ Marne, ฝั่งทางใต้ Côte des Blancs ใกล้ๆกับเมือง Épernay, และ Côte des Bar ที่อยู่ใต้ลงไป

Épernay มีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองแห่งแชมเปญ "City of Champagne" โดยชื่อนี้เกิดขึ้นโดยนักเขียนชื่อดังอย่าง Victor Hugo  เมือง Épernay เป็นสถานที่เขามาใช้เวลาพักผ่อนในวันสุดสัปดาห์เพื่อดื่มด่ำไปกับบรรยากาศและรสชาติแชมเปญชั้นเยี่ยม นอกจากชื่อเสียงเกี่ยวกับแชมเปญแล้ว Épernay ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ ความสวยงามของเมือง กิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงผู้คนที่เป็นมิตรด้วย 

ที่เที่ยวใกล้ปารีส

ไปดูเที่ยวที่เมืองนี้กัน และดื่มดำ่ไปกับแชมเปญรสชาติดีที่ เปิดโลกความสุขให้กับวันว่างๆ สัมผัสประสบการณ์ “joie de viver” ไปด้วยกัน

 

เดินทางไปที่ Épernay อย่างไร?

การเดินทางไปเที่ยว Epernay

โดยรถไฟ

คุณสามารถขึ้นรถไฟจากปารีสที่สถานี Gare de l'Est เพื่อเดินทางไปยัง Épernay  รถไฟใช้เวลา่ในการเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของรถไฟที่คุณเลือก คุณสามารถสำรองที่บนรถไฟล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์การรถไฟของประเทศฝรั่งเศส หรือ SNCF นั่นเอง หรือจะไปซื้อที่สถานีรถไฟก็ได้เช่นกัน เมื่อไปถึงที่สถานรถไฟปลายทาง Épernay ตั้งอยู่กลางเมืองและสามารถเดินทางเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้ง่ายๆ หารเดินทางด้วยนถไฟเพิ่มความสนุกให้คุณระหว่างทางได้อย่างแน่นอน วิวข้างทางๆจะให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบอื่นๆนอกปารีส และยังช่วยลดความวุ่นวายบนท้องถนนอีกด้วย

โดยรถยนต์

การเดินทางด้วยรถส่วนตัวมีข้อดี คือ ความยืดหยุ่นในการเดินทางและแวะเที่ยวได้ระหว่างทาง การเดินทางจากปารีสไปยังเอเปนี่ ทำได้โดยใช้ถนนมอเตร์เวย์ A4 สายตะวันออก มุ่งหน้าไปยัง Reims และขับตามป้ายไปจนบนถนน D951 การเดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณรถบนท้องถนน ในเมือง Épernay มีสถานที่จอดรถใกล้กับใจกลางเมืองและสถานที่ท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ก่อนออกเดินทาง โปรเตรวจสอบตารางรถไฟและสภาพการจราจรล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน 


ไปทำอะไรที่ Épernay ?

 

สนุกสนานไปกับบรรยากาศนอกเมือง และทัศนียภาพที่สวยงาม 

รถชมเมือง L'Impériale de Marie-Antoinette

ที่เที่ยวใกล้ปารีส

หลังจากที่มาถึงเมือง Épernay เราก็ไปขึ้นรถชมเมืองซึ่งเป็นบริการจาก "l'Impériale de Marie-Antoinette" รถบัสแสนสวยคันี้พาเราเที่ยวรอบเมือง ชื่นชมความสวยงามของบรรยากาศรอบๆเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ h
ไกด์บนรถให้ความรู้เกี่ยวประวัติศาสตร์ของเมือง วัฒนธรรมเกี่ยวกับไวน์ และที่มาของชื่อบริการรถชมเมืองซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ "Fuite de Varennes" ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระนางมารี อ็องตัวเนตต์และพระเจ้าหลุยส์หนีจากเมืองมาร์น ในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส 
การทัวร์บนรถบัสใช้เวลาประมาณ 80 ถึง 135 นาที ขึ้นอยู่กับประเภททัวร์ที่เลือก ราคาตั๋วสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 75 ถึง 90 ยูโร ส่วนตั๋วสำหหรับเด็กอยู่ที่ 30 ถึง 35 ยูโร แต่หากคุณอยากได้ความเป็นส่วนตัว ก็สามารถที่จะวางแผนเส้นทางและจ้างไกด์ส่วนตัวก็ได้ โดยข้อมูลต่างๆสามารถดูที่เว็บไซต์ 

 

Ballon captif flight

ballon captif-épernay

Épernay มีทัศนียภาพที่สวยงาม ตัวเมืองล้อมรอบด้วยไรองุ่น ซึ่งทำให้กิจกรรมอย่างการขึ้นไปชมวิวจากบอลลูน "Ballon Captif" เป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่ควรทำเมื่อเดินทางไปที่เมือง Épernay โดยความสูงของบอลลูนนั้นใกล้เคียงกับความสูงของหอไอเฟลเลยทีเดียว
เมื่อบอลลูนลอยสูงขึ้น คุณก็จะรู้สึกตื่นเต้นอยู่หน่อยๆ ทุ่งไร่องุ่นที่ปกคลุมบริเวณเมืองนี้จะทำให้คุณรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน บรรยากาศที่ล้อมรอบด้วยกลุ่มเมฆด้านบนน่าจะเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกมากเลยทีเดียว
เมื่อบอลลูนลอยขึ้นไปข้างบน ผู้ที่ดูแลความปลอดภัยจะย้ำเพื่อให้เราได้สบายใจว่าตัวบอลลูนนั้นติดอยู่กับพื้น และแน่นอนว่าทุกมาตรการความปลอดภัยนั้นเคร่งครัดอย่างที่สุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ในกรณีที่อากาศไม่เป็นใจ ลมแรงหรือฝนตก ตัวบอลลูนนั้นจะไม่ถูกปล่อย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง
แต่ในกรณีที่ไม่สามารถขึ้นบอลลูนได้ ที่เมืองนี้ก็มีนวัตกรรมการชมเมืองแบบ VR balloon tour ซึ่งทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับการขึ้นไปบนบอลลูนเลย และยังมีบทบรรยายให้ฟังอีกด้วย ทั้งในภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสเพื่อทำความเข้าใจกับภูมิประเทศและสถานที่สำคัญของเมือง
คุณสามารถสำรองที่สำหรับ “ballon captif” ได้ที่นี่ แต่อย่างไรก็ตาม หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ การขึ้นบอลลูนนั้นคงจำเป็นต้องถูกยกเลิกไป

ที่อยู่ : Esplanade Charles de Gaulle, 51200 Epernay

 

เที่ยวชิมแชมเปญที่เมืองแห่งแชมเปญ

Champagne tasting และอาหารทานเล่นแบบฝรั่งเศส

แชมเปญฝรั่งเศส

 

เครื่องดื่มอย่างแชมเปญนั้นถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ราคาค่อนข้างสูงขึ้นมาหน่อย อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มสำหรับมื้ออาหารพิเศษ เพิ่มความหรูหราให้มื้ออาหารในหลายๆโอกาสพิเศษ เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยสร้างบรรยากาศความสนุกได้ดีหรือที่ชาวฝรั่งเศสเรียกว่า "joie de vivre" เครื่องดื่มรสชาติมาพร้อมกับอาหารทานแกล้มที่อร่อยและหน้าตาน่ารับประทาน

 

ห้องเก็บไวน์ cave Edouard Mardin-Épernay

ชาว O'bon Paris ได้ไปเพิ่มเติมความรู้ ความเข้าใจที่บ้านของผู้ก่อตั้งแชมเปญ Edouard Martin ที่ซึ่ง Jean Baptiste Martin (ทายาทรุ่นที่ 4) พักอาศัยอยู่
พวกเราได้มีโอกาสเยี่ยมชมบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ รวมไปถึงห้องเก็บไวน์ใต้ดินที่น่าตื่นตาตื่นใจแบบสุดๆ แม้กระทั่งในช่วงฤดูร้อน ภายในห้องใต้ดินก็ยังคงเก็บรักษาอุณหภูมิไว้ได้เป็นอย่างดี ทำให้ไวน์ที่ห้องใต้ดินแห่งนี้ได้รับการเก็บรักษาเป็นอย่างดี

เที่ยวนอกเมืองปารีส

นอกจากนี้แล้ว เรายังมีโอกาสได้พบกับศิลปินที่ได้รับการรับเชิญจาก Edouard Martin ได้แก่ Joanna Wojtowicz และ Massimiliano Mocchia di Coggiola ที่บ้านแห่งนี้มักจะมีการจัดแสดงงานศิลปะ แสดงการวาดภาพในสวนและเปิดโอกาสให้มีการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับศิลปินหรือผู้คนที่ผ่านมาผ่านไป
การได้นั่งในที่เงียบๆ พูดคุยกับเพื่อนใหม่ พร้อมกับดื่มแชมเปญรสชาติดีเป็นเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นในทริปนี้

ที่ตั้ง : 3 rue Aristide Briand, 51150 Bouzy 

 

ค้นพบพื้นที่เฉพาะสำหรับการผลิตแชมเปญและเรียนรู้การผลิตแชมเปญที่  Centre d’interprétation Pressoria

Centre d'interprétation Crédit photo BOEGLY+GRAZIA

สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เรื่องราวของแชมเปญให้ลึกลงไป ไม่ว่าจะเป็นประวัติหรือขั้นตอนการทำแชมเปญก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชม Centre d'Interprétation Sensorielle des Vins de Champagne ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของ Maison Pommery ปลายตีนเนินเขาใกล้กับหมู่บ้าน Aÿ-Champagne 

นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้เรื่องแชมเปญแล้ว อาคารที่ตั้งของสถาบันนี้ยังมีความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมและเป็นสถานที่สำคัญของเมือง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนที่เก็บความทรงจำ เรื่องราวสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไวน์ เรื่องสำคัญๆของแชมเปญ

  Centre d’interprétation Pressoria

ภายในอาคารเต็มไปด้วยห้องจำนวนสิบห้อง ซึ่งเป็นเส้นทางการเดินที่สนุกตลอดทางอย่างแน่นอน เต็มไปด้วยอุปกรณ์ที่สร้างความสนุกให้กับประสาทสัมผัสทั้งห้า ตัวเสาที่มีพื้มผิวขรุขระ เนื้อสัมผัสเหมือนชอล์กทำให้เรารู้สึกสนุกและตั้งคำถามในการเดินทัวร์รอบๆสถานที่ไปเรื่อยๆ 

 Centre d’interprétation Pressoria

การจัดแสงและเงา รวมไปถึงเสียงช่วยสร้างบรรยากาศเสมือนเดินอยู่ในไร่องุ่น 

 Centre d’interprétation Pressoria

และด้วยวัตกรรมใหม่ที่นำมาใช้ในสถานที่แห่งนี้ เกมต่างๆยิ่งทำให้การเรียนรู้สนุกยิ่งขึ้น ตัวเกม "Identifying Friends and Foes of the Vineyard" น่าจะเป็นเกมที่เด็กๆชอบมากเลยทีเดียว รับรองว่าการมาเที่ยวที่นี่พร้อมเด็กๆจะไม่ทำให้น่าเบื่ออย่างแน่นอน

 

 ชิมไวน์ Centre d’interprétation Pressoria

และท้ายที่สุด เราจบทัวร์นี้ด้วยการชิมแชมเปญ หรือเราสามารถเลือกที่จะชิมน้ำองุ่นก็ได้เช่นกัน สำหรับเด็กหรือผู้ที่ไม่ต้องการดื่มแอลกอฮอล์

ราคาค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 16 ยูโร ราคาสำหรับนักเรียนอยู่ที่ 14 ยูโร ส่วนราคาตั๋วสำหรับเด็กอยู่ที่ 6.5 - 8.5 ยูโร และราคาตั๋วสำหรับครอบครัวอยู่ที่ 38.5 ยูโร ซึ่งสามารถเข้าได้ทั้งหมด 4 คน (เด็กสองคน และผู้ใหญ่สองคน) คุณสามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ที่นี่ 

ที่ตั้ง : 11 boulevard Pierre Cheval Anciennement Boulevard Pasteur, 51160 Aÿ-Champagne

 

พิพิธภัณฑ์ Musée du vin de Champagne et d’Archéologie régionale 

พิพิธภัณฑ์ไวน์ Musée du vin de Champagne et d’Archéologie régionale

คำว่า "terroir" นภาษาฝรั่งเศสเป็นคำสำคัญที่อธิบายคอนเซ็ปเรื่องของพื้นที่และภูมิปัญญาเฉพาะถิ่นเฉพาะสำหรับการผลิตไวน์ ชาวฝรั่งเศสใช้คำนี้ในการอธิบายสภาพแวดล้อมของไร่องุ่นและอากาศ รวมถึงปัจจัยต่างๆที่มีผลต่อการผลิตองุ่น พิพิธภัณฑ์ Musée du Vin de Champagne et d’Archéologie régionale จะทำให้คุณเข้าใจเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับ terroir มากขึ้นอย่างแน่นอน การจัดแสดงมากกว่า 2,000 รายการบอกเล่าเรื่องราว Epernay ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติของดินที่เกิดจากการทับถมของสิ่งมีชีวิตมาหลายล้านปี พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ในปราสาทยุคศตวรรษที่ 19 อย่าง Château Perrier และในปี 2013 สถานที่แห่งนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นอนุเสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ 

พิพิธภัณฑ์ Musée du vin de Champagne et d’Archéologie régionale

การตกแต่งภายในเป็นสถาปัตยกรรมนั้นเป็นพื้นไม้ปาเก้และและเสาแบบศตรรษที่ 18 โดยเป็นผลงานของช่างฝีมือกลุ่มเดียวกับที่ตกแต่งโรงอุปรากรณ์ Opéra Garnier ปารีส และ Hôtel de Ville ในปารีศ  ปราสาทแสนสวยแห่งนี้เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่งสำหรับใครที่อยากมีรูปถ่ายสวยๆในสถานที่ใหม่ไม่จำเจ

พิพิธภัณฑ์ Musée du vin de Champagne et d’Archéologie régionale

หากคุณกังวลเรื่องภาษาที่ใช้บรรยายหรือภาษาบนป้ายแสดงต่างๆ คุณสามารถติดต่อส่วนต้อนรับเพื่อยืมตัวออดิโอไกด์ที่มีให้เลือกหลากหลายภาษา เพียงเท่านี้ก็หายห่วงเรื่องภาษาไปได้เลย

 สวนสาธารณะ Château Perrier

นอกจากตัวปราสาทที่สวยงามแล้ว ด้านนอกของปราสาทยังมีสวนสวยสไตล์อังกฤษขนาด 7,500 ตารางเมตร ทั้งนี้ทั้งนั้น ในปริเวณของปราสาทและสวนมีการจัดแสดงนิทรรศการชั่วคราวอยู่บ่อยๆ การมาเที่ยวในแต่ละฤดูก็จะมีบรรยากาศหรือนิทรรศการที่ต่างๆกันออกไป แต่ก็ยังมีความสวยงามอยู่เสมอๆ
ราคาตั๋วสำหรับพิพิธภัณฑ์อยู่ที่ 9.50 ยูโร ส่วนราคานักเรียนอยู่ที่ 6.30 ยูโร พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าฟรีทุกๆวันอาทิตย์แรกของเดือน และวันที่เรียกว่า “Nuit des musée” เปิดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ 

 ทึ่ตั้ง:Château Perrier, 13 avenue de Champagne, 51200 Épernay

 

ที่พักในเมือง Épernay

โรงแรม Champagne

เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวเมือง Épernay และชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองนี้ เราแนะนำว่าให้พักค้างคืนในเมืองแห่งนี้เพื่อสัมผัสความโรแมนติกในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่ Avenue du Champagne และตื่นเข้ามาเดินตลาดเช้าที่เต็มไปด้วยผัก ผลไม้จากชาวเมือง รวมไปถึงานศิลปะจากศิลปินในเมือง พวกเราพักที่โรงแรม Hôtel de Champagne ซึ่งเป็นสถานที่เพอร์เฟ็ก อยู่ใกล้ Avenue de Champagne มากๆ ภายในโรงแรมยังมีพื้นที่โคเวิคกิ้งที่สวย และผ่อนคลายอีกด้วย

ที่อยู่ : 30 rue Eugène Mercier, 51200 Épernay

 

ช่วงเวลาไหนเหมาะไปเที่ยว Épernay ?

บรรยากาศของเมืองแห่งนี้เปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็คือช่วงฤดูร้อน นอกจากบรรยากาศสวยๆของเมืองแล้ว การได้ดื่มแชมเปญรสชาติดีๆท่ามกลางพื้นที่สีเขียวก็ทำให้วันหยุดนั้นยิ่งน่าจดจำและผ่อนคลายมากขึ้นไปอีก ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงฤดูร้อนยังเต็มไปด้วยเทศกาลใหญ่อีกมากมาย


Vign'Art

Vign'Art Épernay

ช่วงวันที่ 15 พฤษภาคม ถึง 17 กันยายน 2023 เป็นช่วงที่มีเทศกาล Vign'Art 
Vign'Art i เป็นเทศกาลที่เกี่ยวกับศิลปะร่วมสมัย นำเอาผลงานของศิลปินทั้งศิลปินพื้นเมือง ศิลปินระดับชาติ และศิลปินนานาชาติ มาจัดแสดงในสถานที่ต่างๆใกล้กับพืชเถาวัลย์ พันธุ์องุ่น ทุกๆปี เทศกาล Vign'Art จะเปลี่ยนทุ่งองุ่นเป็นแกเลอรี่กลางแจ้ง สำหรับในปี 2023 ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการจัดเทศกาลนี้ขึ้นมาเป็นครั้งที่ 4 นอกจากจะได้พบกับบรรยากาศสวยๆของไร่องุ่นแล้ว ยังได้สนุกสนานไปกับการชื่นชมงานศิลปะในสถานที่ต่างๆถึง 16 แห่งทั่วแคว้นแชมเปญ 

 

Fête de la musique (เทศกาลดนตรี)

เป็นที่รู้กันดีในหมู่คนที่ชื่นชอบฝรั่งเศสว่า วันที่ 21มิถุนายนของทุกปีเป็นเทศกาลดนตรีของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นวันที่ชาวฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวมาร่วมสนุกกันไปกับเสียงดนตรี

 

Habits de Lumière

Habits de Lumière Épernay Crédit Alexandre Couvreux

หากคุณเดินทางมาเที่ยวในช่วงฤดูหนาว เมือง Épernay ก็มีบรรยากาศสนุกๆรอต้อนรับ อย่างเช่น งานแสดงแสง Habits de Lumière เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นบริเวณ Avenue de Champagne ในวันศุกร์และเสาร์ตอนเย็น การแสดงสี วิดีโอ บาร์แชมเปญ เสียงดนตรีและพลุต่างๆทำให้บรรยากาศพิเศษอย่างที่สุด 

 

 

เรื่อง : Jingxin
ภาพ : Jingxin, Alexandre Couvreux, © BOEGLY+GRAZIA