GRAND HOTEL LE ROI RENE

เมืองเอ็กซองโพรวองซ์ (Aix-en-Provence) ถือเป็นหัวใจสำคัญและประตูที่เปิดไปสู่แคว้นโพรวองซ์ ใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวเทือกเขาลูเบอรอง (Luberon) หรือทุ่งลาเวนเดอร์ที่เมืองวาลองโซล (Valensole) ต่างก็ต้องมาแวะพักที่นี่เนื่องจากเดินทางสะดวกและในตัวเมืองก็มีอะไรอีกมากมายให้สำรวจโดยใช้เวลาอย่างน้อย 1 วันในการเดินเที่ยวทั่วทั้งเมือง ที่นี่มีทั้งสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ตลาดเก่าแก่ และสถานที่ในประวัติศาสตร์อีกมากมาย ได้ฟังอย่างนี้แล้วก็ต้องรีบจับจองที่พักกันให้ไว วันนี้ทางเราจะมาแนะนำที่พักอย่าง Hotel du Roi Rene ที่บอกได้เลยว่าเป็นที่พักที่ดีที่สุดในเมืองเอ็กซองโพรวองซ์แห่งนี้แล้ว นอกจากนั้นแล้วยังมีร้านอาหารของทางโรงแรมที่เสิร์ฟอาหารรสชาติท้องถิ่นของอย่างแท้จริง

สวรรค์แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริงที่เอ็กซองโพรวองซ์

โรงแรม 4 ดาวแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองและอยู่ห่างจาก Cours Mirabeau และศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์เพียง 5 นาทีเท่านั้น อีกทั้งยังอยู่ในระยะเดินเท้าจากสถานีรถไฟและสถานีรถบัสอีกด้วย โรงแรม Hotel du Roi Rene นี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1929 ตั้งชื่อตามขุนนางของโพรวองซ์ที่ชื่อว่า Ren1 1er d’Anjou หลังจากนั้นที่นี่ได้กลายเป็นที่พักที่เป็นที่โปรดปรานสำหรับนักท่องเที่ยวและเหล่าเซเลบริตี้มากหน้าหลายตา อาทิเช่น Winston Churchill ที่มาเข้าพักในปี 1948 และเมื่อไม่นานมานี้เมื่อปลายศตวรรษที่ 20 ที่ผ่านมา โรงแรมก็ได้ทำการรีโนเวทเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและบำรุงรักษาให้ยังดูใหม่อยู่เสมอ

ปัจจุบันนี้โรงแรม Hotel du Roi Rene ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในโรงแรมในเครือโรงแรมชื่อดังอย่าง MGallery By Sofitel อย่างไรก็ตามทางโรงแรมได้ทำการเก็บรักษาเสน่ห์ ความคลาสสิค และความเป็นสไตล์โพรวองซ์หรือที่เรียกกันว่า "Provençal" เอาไว้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นแล้วห้องพักที่นี่ยังมีแฝงความเป็นโมเดิร์นเอาไว้เพื่อไม่ให้ดูน่าเบื่อ ห้องพักมีบริเวณกว้างขวาง สะดวกสบาย อีกทั้งบางห้องยังมีระเบียงที่ยื่นออกไปเพื่อรับวิวอันสวยงามของเมืองอีกด้วย เมืองเอ็กซองโพรวองซ์นั้นค่อนข้างอยู่ห่างจากทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน แต่ถ้าหากใครที่ต้องการเล่นน้ำเพื่อเพิ่มเติมความสดชื่นหลังจากวันท่องเที่ยวอันเหนื่อยล้าแต่ไม่อยากออกเดินทางไกลไปที่ชายหาด ทางโรงแรมก็มีสระว่ายน้ำไว้ให้บริการ โดยระหว่างเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนมีนาคมนั้นทางโรงแรมจะให้บริการเป็นสระน้ำปรับอุณหภูมิเพื่อป้องกันความหนาวเย็น

และที่เห็นในภาพคือห้องอาหารเช้าที่เป็นอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ มีตัวเลือกให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ขนมปังชนิดต่างๆ ครัวซอง ซีเรียล ผลไม้ และอีกมากมาย

อาหารโพรวองซ์ต้นตำรับรูปแบบใหม่ที่ La Table du Roi René

ที่ร้านอาหาร La Table du Roi Rene ไม่จำกัดว่าคุณจะต้องเข้าพักที่โรงแรม Hotel du Roi Rene เท่านั้น หากแต่ว่าทางร้านอาหารนั้นเปิดให้คนที่ไม่ได้เข้าพักสามารถเข้ามารับประทานอาหารที่นี่ได้เช่นกัน ที่นี่เสิร์ฟอาหารโพรวองซ์สูตรต้นตำรับที่ถูกนำเสนอในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดจานหรือวิธีการปรุงอาหาร นอกจากนั้นแล้ว ด้วยความที่เมืองในแคว้นโพรวองซ์นั้นมีภูมิอากาศที่ดี เหมาะสำหรับการผลไม้โดยเฉพาะองุ่น ทางร้านจึงมีไวน์ท้องถิ่นมากมายหลายชนิดให้เลือกเพื่อที่จะนำมารับประทานคู่กับอาหาร

BOUILLABAISSE

ร้านอาหารส่วนใหญ่ที่เสิร์ฟ Bouillabaisse ในแคว้นโพรวองซ์นั้นจะมีรสชาติที่แตกต่างออกไปจากต้นตำรับ หากแต่ว่า Bouillabaisse ที่ร้าน La Table du Roi Rene นั้นเรียกได้ว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มทั้งในเรื่องของรสชาติ คุณภาพ และราคา โดยเจ้า Bouillabaisse นี้คือสตูว์เนื้อปลาตุ๋น ที่นำเนื้อปลามาตุ๋นในน้ำซุปพร้อมกับสมุนไพรและเครื่องเทศต่างๆของทางแคว้นโพรวองซ์ เสิร์ฟมาพร้อมกับ Rouille หรือมายองเนสที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำมันมะกอก กระเทียม หญ้าฝรั่น และพริกไทย

SPHERE DE CHOCOLAT VALRHONA

หลังจากนั้นก็ต้องตบท้ายด้วยของหวานเพื่อเป็นการจบมื้ออาหารนี้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่เห็นในภาพคือ Sphère de Chocolat Valrhona ที่เป็นการนำเอาช็อกโกแลตมาทำให้เป็นลูกกลมๆ วางอยู่บนครัมเบิ้ลกรุบกรอบ ด้านในมีไอศกรีมซ่อนอยู่ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำเชื่อมผลไม้ร้อนๆที่เมื่อราดลงไปบนลูกบอลช็อกโกแลต ลูกบอลก็จะละลายและเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านใน นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีลูกเล่นให้ได้สนุกสนานกันอีกด้วย

O'bon Paris' tip

นอกจากห้องพักที่คลาสสิค อาหารที่อร่อยแล้ว ห้ามพลาดเด็ดขาดที่จะกระโดดน้ำเล่นในสระว่ายน้ำในช่วงหน้าร้อนเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้วันหยุดอันสดใสของคุณ หลังจากเพลิดเพลินกับการเดินชมเมืองแล้ว เผื่อเวลาเล่นน้ำเอาไว้สักหน่อย รับรองว่าจะไม่ผิดหวังเลย สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกาย ทางโรงแรมก็มีฟิตเนสเอาไว้ให้บริการเช่นกัน

เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan

ภาพ: Vincent Sacau