เดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ภายใน 2 ชั่วโมง

อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในปารีส ก็คงหนีไม่พ้นชื่อของพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ซึ่งเป็สถานที่จัดเก็บผลงานศิลปะ หรือศิลปะวัตถุตั้งเเต่ยุคโบราณไปจนถึงศตวรรษที่ 19 รวมไปถึงศิลปะจากอียิปต์อีกด้วย พีระมิดแก้วด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ก็นับเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งนี้ นอกจากความงดงามของพีระมิดแล้ว ผู้คนที่ผ่านไปมาก็นิยมถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกในการเดินทางมาเที่ยวปารีสอีกด้วย หากจะเดินชมพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ให้ทั่วก็อาจจะต้องใช้เวลามาถึง 5 วันเพื่อชื่นชมผลงานทั้งหมด ซึ่งนั่นก็คงไม่ง่ายเพราะเวลาของเเต่ละคนนั้นล้วนมีจำกัดเเละยังต้องเผื่อเวลาสำหรับการเยี่ยมชมสถานทีท่องเที่ยวอื่นๆด้วย ดังนั้นเพื่อให้การเยี่ยมชมง่ายขึ้น เราขอนำเสนอแผนการเดินชมพิพิธภัณฑ์ภายใน 2 ขั่วโมง ซึ่งจะเน้นไปที่ผลงานเด่นๆภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

เที่ยวลูฟว์แบบเน้นๆภายใน 2 ชั่วโมง

ก่อนอื่นเพื่อให้การเที่ยวพิพิธภัณฑ์ลูฟว์นั้นง่ายขึ้น เราขอเเนะนำให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นลงในมือถือ โดยแอพพลิเคชั่นที่เราขอแนะนำนั้น คือ "My Visit to the Louvre" นั่นเองซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการตรวจสอบว่าภาพเขียนที่เราต้องการดูนั้นตั้งอยู่ในห้องไหน อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ การจองตั๋วออนไลน์มาล่วงหน้าหรือใช้ตั๋ว Paris Museum Pass เพื่อหลีกเลี่ยงคิวที่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ คำแนะนำอีกอย่างหนึ่งคือ ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการหลีกเลี่ยงมวลมหาประชาชน คือ วันพุธตอนเช้าหรือในตอนค่ำของวันพุธเเละศุกร์ ท้ายที่สุดเราขอแนะนำให้ใช้ทางเข้าจาก Carrousel ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กและมีทางเชื่อมกับพิพิธภัณฑ์ลูฟว์โดยผ่านเส้นทางของเมโทรสถานี Palais Royal - Musée du Louvre 

หลังจากผ่านทางเข้าเเละการตรวจสัมภาระจะได้พบกับฮอลล์ขนาดใหญ่ที่มีหลังคาเป็นพีระมิดแก้วนั่นเอง ณ ลานกว้างนั้น คุณจะได้พบกับออฟฟิศขายตั๋ว จุดรับเครื่องบรรยาย คาเฟ่ ร้านอาหาร ห้องเก็บสัมภาระ โต๊ะประชาสัมพันธ์ และทางเข้าทั้ง 3 ปีกของพิพิธภัณฑ์ ณ จุดนี้ เรามีสองสิ่งที่อยากให้คุณทำ คือ ไปรับแผนที่จากโต๊ะประชาสัมพันธ์และฝากสัมภาระต่างๆของคุณไว้ในล็อกเกอร์ กรุณาสำรวจให้เเน่ใจว่าหยิบตั๋วติดออกมาจากกระเป๋าก่อนนำไปฝากด้วย

ทางเดินที่ล้อมรอบไปด้วยภาพเขียนที่หลากหลาย

จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าพิพิธภัณฑ์ลูฟว์นั้นมีขนาดใหญ่มาก หากจะเดินให้ครบทั้งหมดก็ต้องใช้เวลาเยอะมาก และคงเป็นที่เหน็ดเหนื่อยน่าดู เราขอแนะนำให้เลือกชมไล่ลงมาจากชั้นบนเเล้วปิดท้ายด้วยผลงานศิลปะที่ชั้นล่างๆ ในส่วนต่อไปของบทความนี้ เราขอเเนะนำห้องจัดแสดงภาพเขียนที่มีภาพเขียนสำคัญๆซึ่งไม่ควรพลาด และสามารถเดินชมให้ครบได้ภายใน 2 ชั่วโมง

1

ปีก RICHELIEU ชั้น 2  - ภาพเขียนฝรั่งเศสและยุโรปเหนือ

หลังจากเดินเข้ามาในส่วนของพิพิธภัณฑ์เราขอให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 และพุ่งตรงไปที่ปีกที่มีชื่อว่า Richelieu ซึ่งเป็นสถานที่ที่จัดเก็บภาพเขียนจากฝรั่งเศสเเละยุโรปเหนือ ตัวอย่างภาพเขียนที่น่าสนใจ เช่น LA DENTEILLERE โดยศิลปินชื่อ Johannes Vermeer, PORTRAIT OF FRANCOIS I, KING OF FRANCE โดย Jean Clouet, ผลงานภาพเขียนอิมเพรสชั่นนิสม์ รวมไปถึงภาพเขียนจากศิลปินอย่าง Jean François Millet

2

ปีก SULLY ชั้น 2 - ภาพเขียนของฝรั่งเศส

หลังจากเยี่ยมชมภาพเขียนบนชั้น 2 ของปีก Richlieu ก็ย้ายไปต่อกันที่ปีก Sully  บนชั้นเดียวกัน แพลนของปีก Sully นี้มีลักษณะเป็นวงกลม สามารถเดินวนได้ ที่ส่วนนี้จะได้พบกับภาพเขียนสำคัญของฝรั่งเศส เช่นภาพเขียนของ Antoine Watteau ที่ชื่อว่า THE EMBARKATION FOR CYTHERA ผลงานของเจ้าพ่อนีโอตลาสสิคอย่าง Dominique Ingres ที่มีชื่อว่า THE TURKISH BATH หรือ THE VALPINCON BATHER รวมไปถึงศิลปินชื่อดังอย่าง George de La Tour ซึ่งเป็นเจ้าของภาพเขียน THE CHEAT WITH THE ACE OF DIAMONDS ใครเป็นแฟนงานศิลปะก็คงต้องบอกเลยว่าห้ามพลาดจริงๆ

3

ปีก RICHELIEU ชั้น 1 - ที่พักของกษัตริย์ฝรั่งเศสในอดีต

เมื่อเสร็จสิ้นจากการเดินชมงานศิลปะที่ชั้น 2 ของปีก Sully คุณจะวนกลับมาที่ปีก Richelieu  อีกครั้ง เเละเมื่อเดินลงบันไดต่อมาก็จะได้พบกับห้องพักของนโปเลียนที่ 3 ซึ่งตกเเต่งอย่างหรูหราอลังการด้วยโคมไฟระย้าจำนวนมาก ภายในบริเวณนั้นจะได้พบกับห้องรับประทานอาหาร ห้องนอนและพื้นที่ใช้สอยต่างๆของกษัตริย์ในอดีตซึ่งล้วนเเล้วเเต่แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งของราชวงศ์ฝรั่งเศสทั้งสิ้น

4

ปีก DENON ชั้น 1 - ภาพเขียนอิตาเลียน ฝรั่งเศส และสเปน

ที่บริเวณชั้น 1 ของปีก Denon  เป็นสถานที่ตั้งของภาพเขียนชื่อดังก้องโลกอย่าง "โมนาลิซ่า" 

นอกจากนี้ยังมีผลงานชื่อดังอื่นๆ เช่นภาพเขียนของ Ingres ที่มีชื่อว่า GRANDE ODALISQUE, ผลงาน THE CORONATION OF NAPOLEON จาก  Jacques Louis David, LIBERTY LEADING THE PEOPLE โดย Eugène Delacroix, HE RAFT OF THE MEDUSA จาก Théodore Géricault และภาพเขียนวิวทิวทัศน์จาก William Turner แต่อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคมถึงช่วงกลางเดือนตุลาคมปี 2019 ขอให้จดบันทึกไว้นิดว่าภาพเขียนโมนาลิซ่านั้นจะถูกนำไปจักแสดงที่ห้องหมายเลข 801 ของปีก Richelieu ชั่วคราว ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เนื่องมาจากการซ่อมแซมพื้นที่บางส่วนของพิพิธภัณฑ์ 

5

ปีก DENON ชั้น G - ศิลปะโบราณจากอิตาลีและอิทรูเรียโบราณ

หลังจากชื่นชมภาพเขียนโมนาลิซ่าเป็นที่เรียบร้อย ก็เดินต่อเนื่องลงมาที่ชั้น G ของปีก Denon ซึ่งเป็นที่ตั้งของปะติมากรรมชื่อดังอย่าง WINGED VICTORY OF SAMOTHORACE ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับบันไดทางลงมาจากชั้น 1 ของ Denon เนื่องจากเป็นรูปปั้นที่มีชื่อเสียงก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าจะมีผู้คนยืมอยู่รอบๆรูปปั้นนี้จำนวนมาก

ประติมากรรมอีกชิ้นหนึ่งที่ควรเห็นกับตาตัวเอง คือ VENUS DE MILO  ซึ่งตั้งอยู่ในห้องเเสดงนิทรรศการ โดยภายในห้องจัดแสดงนั้นจะมีคำอธิบายถึงเรื่องราวและประวัติของรูปปั้นสำหรับผู้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์

หากมีเวลาเหลือ เราขอแนะนำให้เดินต่อไปยังส่วนของศิลปะโรมันโบราณและยุโรปในศตวรรษที่ 16 ถึง 19 ภายในปีก Denon แห่งนี้ ซึ่งจะเต็มไปด้วยงานปั้นต่างๆมากมาย

O’bon Paris’ tip

เพื่อให้การเที่ยวพิพิธภัณฑ์ลูฟว์มีเสน่ห์มากขึ้น เราแนะนำให้เดินชมพิพิธภัณฑ์พร้อมกับอุปกรณ์บรรยายหรือออดิโอไกด์นั่นเอง ภายในพิพิธภัณฑ์ลูฟว์มีบริการเครื่องบรรยายจาก Nintendo 3DS ซึ่งจะช่วยบอกเล่าเรื่องราวของงานศิลปะเเต่ละชิ้นพร้อมทั้งแสดงภาพของงานศิลปะให้เห็นเเละเข้าใจง่ายขึ้นอีกด้วย โดยปกติแล้ว พิพิธภัณฑ์ในปารีสหลายๆแห่งไม่อนุญาตให้นำกระเป๋าสะพายเข้าไปภายในห้องจัดแสดงนิทรรศการ แต่สำหรับพิพิธภัณฑืลูฟว์นั้นไม่มีกฎข้อห้าม เพียงเเต่เราไม่เเนะนำให้พกกระเป๋าติดตัวไป เนื่องจากภายในพิพิธภัณฑ์มีนักล้วงกระเป๋าซ่อนตัวอยู่ ดังนั้นการเก็บกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์นั้นอาจจะปลอดภัยกว่า

นอกากนี้การเดินชมพิพิธภัณฑ์อาจใช้เวลานาน เราจึงเเนะนำว่าให้ทานอาหารให้อิ่มก่อนการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ถ้าต้องการรับประมานอาหารเช้าใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ เราขอเเนะนำร้าน Le Café Marlie ซึ่งนอกจากจะมีเมนูอาหารเช้าเเล้วยังจะเป็นการนั่งชมบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์เเละพีระมิดแก้วที่สวยงามอีกด้วย เเละเนื่องจากบริเวณพิพิธภัณฑ์นั้นมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากร้านอาหารแห่งนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งจุดนัดพบที่ไม่เลวหากเกิดกรณีพลัดหลงกับเพื่อน

เรื่อง : Supawadee Pinkhao

ภาพ : Yuka Ishihara