พิพิธภัณฑ์ ORANGERIE

พิพิธภัณฑ์ที่จะทำให้คุณเกือบลืมหายใจ

หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ที่เป็นที่นิยมสำหรับแฟนๆอิมเพรสชั่นนิสม์ นั่นคือ พิพิธภัณฑ์ออแร็งเจอรี หรือ Musée de l’Orangerie หรือ Orangerie museum  ในภาษาอังกฤษ ซึ่งหากเเปลตรงๆก็จะหมายถึง พิพิธภัณฑ์ต้นส้ม พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ในสวน Tuileries ใช้เวลาเดินจากสถานีเมโทร Concorde เพียง 5 นาทีเท่านั้น  พิพิธภัณฑ์ Orangerie มีชื่อเสียงอย่างมากเนื่องมาจากผลงานชิ้นสำคัญของโมเนต์ ซึ่งเป็นภาพวาดขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า WATER LILIES  หรือภาพวาดสระบัวของโมเนต์นั่นเอง ภาพวาดนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวปารีส รวมไปถึงชาวปารีสเองก็ชื่นชอบภาพเขียนนี้อย่างมาก

ชื่อของพิพิธภัณฑ์มีความหมายตรงตัวว่า "ผลส้ม" ดังที่ได้กล่าวไปในตอนต้น ที่มาของชื่อก็ต้องย้อนไปในปี 1852 เมื่อนโปเลียนที่ 3 มีรับสั่งให้สร้างอาคารนี้ขึ้นมาเมื่อใช้เป็นโรงเรือนสำหรับต้นส้มนั่นเอง ต่อมาในภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 อาคารแห่งนี้จึงถูกพัฒนาให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์โดย George Clemenceau ซึ่งคิดสร้างพื้นที่พิเศษสำหรับผลงานภาพเขียน WATER LILIES หรือสระบัว และในปี 1927 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงได้รับการขานชื่อว่า Musée National de l'Orangerie des Tuileries ในภาษาฝรั่งเศส หรือ พิพิธภัณฑ์ Orangerie ในภาษาอังกฤษนั่นเอง

พิพิธภัณฑ์ต้นส้มแห่งนี้มีค่อนข้างขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยผลงานอิมเพรสชั่นนิสม์ ไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจบ้างในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

ความงดงามของพิพิธภัณฑ์

เมื่อเดินเข้ามาที่พิพิธภัณฑ์ คุณจะได้พบกับความโล่ง สบายตาซึ่งต้องขอบคุณหน้าต่างบานใหญที่เปิดรับแสงอาทิตย์แบเต็มๆ หน้าต่างบานใหญ่เช่นนี้เเท้จริงเเล้วนั้นในอดีตมีส่วนช่วยให้ต้นส้มจริญเติบโตได้ดีนั่นเอง

ที่ชั้นหนึ่ง จะได้พบกับภาพวาด WATER LILIES หรือ ภาพวาดชุดสระบัวของโมเนต์ ร้านกาแฟและร้านขายของที่ระลึก ส่วนที่ชั้นใต้ดินนั้นเป็นที่ตั้งของคอลเลคชั่นเเละงานนิทรรศการต่างๆ 

1

WATER LILIES หรือ ภาพวาดบ่อบัวของโมเนต์

เริ่มต้นกันด้วยผลงานสำคัญของโมเนต์ นั่นคือ WATER LILIES ซึ่งเป็นผลงานสำคัญที่สุดภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ภาพวาดนี้จัดแสดงอยู่ที่ชั้น 1 ของพิพิธภัณฑ์ เราแนะนำให้รีบไปในช่วงที่ไม่มีคน เพื่อที่จะได้นั่งดื่มด่ำความงดงามของผลงานชื่อดังชิ้นนี้ ที่ห้องจัดแสดงนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยภาพเขียน 8 ภาพด้วยกัน แต่ละภาพมีความกว้าง 91 เมตรและสูง 2 เมตร โดยการจัดแสดงภาพทั้ง 8 นี้มีเป้าหมายเพื่อให้คุณได้มีโอกาสชื่นชมภาพของสระบัวแห่ง Giverny ซึ่งเป็นที่อาศัยของโมเนต์ ในแบบพาโนรามานั่นเอง

เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ภาพเขียนที่ล้อมรอบตัวคุณ 360 องศาจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและตื่นตา ตื่นใจ และรู้สึกเหมือนได้หลบเข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่สงบท่ามกลางมวลหมู่ดอกไม้ ดังคำกล่าวของโมเนต์ที่ว่า  “a refuge for peaceful meditation in the midst of a flowering aquarium” 

ภาพเขียนทั้ง 8 ภายในห้องนี้ ล้วนเป็นภาพเขียนของสระบัวแห่งเดียวกันเเต่ให้บรรยากาศที่ต่างกันออกไป เนื่องจากโมเนต์ต้องเป็นศิลปินที่ขื่นชอบการเขียนภาพในหลากหลายบรรยากาศ ภาพวาดของสถานที่เดียวกันถูกสื่อออกมาด้วยสีที่ต่างกันตามช่วงเวลาของวัน และแสงของพระอาทิตย์ระหว่างวัน นอกจากนี้ภาพวาดยังพยายามแสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของน้ำ ดอกไม้ ต้นไม้และท้องฟ้า ช่วยให้นึกไปถึงขอบเขตของธรรมชาติที่ไม่มีที่สิ้นสุด ฝีมือการลงสีของโมเนต์ทำให้ภาพวาดมีลักษณะคล้ายกับภาพสามมิติ นับว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศิลปินผู้นี้ก็ว่าได้

โมเนต์เขียนภาพเหล่านี้ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายๆคนมองว่าภาพวาดเหล่าคือ คำอ้อนวอนขอคืนความสงบสุข ผ่านทางผลงานของโมเนต์ สถานที่แห่งนี้นับว่าเป็นพื้นซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการหลบหนีจากเมืองหลวงที่ว้าวุ่นในปารีส เพื่อมาใช้เวลาสงบๆอยู่ภายในห้องที่ล้อมรอบด้วยงานศิลปะ ว่ากันว่าห้องแสดงงานแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สวยงามที่สุดในปารีสหรืออาจจะเรียกว่างดงามที่สุดในโลกก็ว่าได้

2

คอลเลกชั่นภาพชุด

หลังจากชื่นชมกับพื้นที่สีเขียวในเมืองเเล้ว เราขอแนะนำให้คุณได้พบกับผลงานต่างๆที่เกี่ยวของกับแนวคิดศิลปะแบบอิมเพรสชั่นนิสม์ในศตวรรษที่ 19 ไปจนถึงงานศิลปะในยุคศตววรรษที่ 20 เพื่อทำความเข้าใจกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของศิลปะ หนึ่งในคอลเลกชั่นที่พลาดไม่ได้ คือ ผลงานของอีกหนึ่งศิลปินอิมเพรสชั่นนิสต์ชื่อว่า Renoir ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่ด้านซ้ายมือของห้องใต้ดิน

นอกจากภาพเขียนของ Renoir คุณยังจะได้พบกับงานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการปฏิวัติศิลปะอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ภาพเขียนของ เซซาน (Cézanne’s post-impressionism art) และภายในห้องจัดแสดงผลงาน Renoir หากเดินไปเรื่อยๆ ก็จะได้พบกับศิลปะยุคเก่า (primitivism) เเละผลงานการเขียนภาพเหลี่ยม (cubism) โดยศิลปินชื่อดัง เช่น Modigliani, Matisse, Picasso, และ Derain ปิดท้ายด้วยผลงานของ  Utrillo และ Soutine ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความทุกข์ของตัวศิลปินเอง

3

นิทรรศการชั่วคราว

นอกจากคอลเลกชั่นงานศิลปะต่างๆภายในพิพิธภัณฑ์ คุณยังสามารถได้เข้าร่วมงานนิทรรศการศิลปะต่างๆที่นำเสนอผลงานที่เกี่ยวข้องกับศตวรรษที่ 19 และอิมเพรสชั่นนิสม์  นิทรรศการที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปนี้ช่วยสร้างเเรงบันดาลใจให้กับผู้ที่เข้าชมเเละเข้าใจเรื่องราวประวัติศาสตร์ของศิลปะมากขึ้น

ในช่วงที่ทีมงาน O’bon Paris ไปสำรวจพิพิธภัณฑ์นี้ เป็นช่วงเดียวกับนิทรรศการ มีชื่อว่า "FRANTZ MARC / AUGUST MACK. THE ADVENTURE OF THE BLUE RIDER" ซึ่งเป็นงานศิลปะในแนวคิด เอกซเพรสชั่นนิสม์ แนวคิด "เอกซเพรสชั่นนิสม์" เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวในประเทศเยอรมนีเมื่อช่วงศตวรรษที่ 20 งานศิลปะตามแบบฉบับเอกซเพรสชั่นนิสม์เป็นงานศิลปะที่เเตกต่างจากเเนวคิดดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง พร้อมด้วยความตั้งใจที่จะล้มล้างโครงสร้างทางสังคมแบบเก่ามีความเชื่อมโยงอย่างยิ่งกับการก่อกำเนิดวิทยาการแขนงใหม่ของอิมเพรสชั่นนิสม์ แนวคิดการปฏิวิตศิลปะนี้เป็นที่ชื่นชมอย่างมากในกลุ่มชาวฝรั่งเศส ภาพเขียนของเอกเพรสชั่นนิสม์อาจจะไม่ได้เเสดงถึงอารยธรรมชั้นสูงแต่เเสดงให้เห็นจิตวิญญาณความคิดของศิลปินอย่างชัดเจน ดังเช่นภาพ WATER LILIES ของโมเนต์

หลังจากชื่นชมกับภาพเขียนของโมเนต์แล้ว เราขอเเนะนำให้ลองไปเยี่ยมชมร้านกาแฟภายในพิพิธภัณฑ์และเลือกซื้อของที่ระลึกจากร้านค้าของพิพิธภัณฑ์ ภายในร้านค้านี้ คุณจะได้พบกับสินค้าต่างๆที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพวาด Water Lilies ของโมเนต์ เช่น ผ้าพันคอ เครื่องปรดับ ถุงเท้า เครื่องเขียน โปสการ์ด และอื่นๆอีกมากมายซึ่งนับว่าเป็นของฝากที่จะช่วยบันทึกความทรงจำที่น่าประทับใจจากเมืองปารีสได้เป็นอย่างดี

ในช่วงวันหยุดยาว หรือช่วงเวลายามบ่าย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเต็มไปด้วยชาวปารีสและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เราจึงแนะนำว่าให้เดินทางไปที่พิพิธภัณฑ์ในช่วงเช้า ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่จะได้สัมผัสกับความสงบจากภาพวาดอย่างแท้จริง เเละเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อคิว เราขอแนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า นอกจากนี้เรายังขอแนะนำให้ใช้ Paris Museum Pass ซึ่งเป็นบัตรรวมสำหรับหลากหลายพิพิธภัณฑ์ทั่วกรุงปารีส ดังนั้นถ้าใครที่มีแพลนพร้อมสำหรับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ เราขอยืนยันว่า Paris Museum Pass จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ สำหรับใครที่เดินทางมาพร้อมกระเป๋าเป้สะพาย ที่ทางเข้าจะมีลอกเกอร์สำหรับฝากของซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม

O'bon Paris' tip

พิพิธภัณฑ์ออแร็งเจอรี มีการจัดงานภายในห้องจัดแสดงภาพวาด Water Lilies อยู่บ่อยๆในทุกปี เช่น Fête de la musique  หรือเทศกาลดนตรี ในเดือนมิถุนายนก็จะมีการแสดงดนตรีเกิดขึ้น โปรแกรมงานแสดงต่างๆสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์

ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ออแร็งเจอรี ยังมีพิพิธภัณฑ์อื่นๆที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ลูฟว์, สวน Tuileries, Place de la Concorde, ถนนชองเซลิเซ่ที่ตั้งของแหล่งชอปปิ้งมากมาย รวมไปถึงร้านกาแฟและขนมชื่อดังอย่าง Ladurée  ดังนั้นเราจึงขอเสนอให้คุณลองไปเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้หลังจากการชื่นชมความงามของภาพเขียน Water Lilies โดยโมเนต์ เพื่อเป็นการเติมเต็มการท่องเที่ยวในกรุงปารีสให้ประทับใจมากยิ่งขึ้น

เรื่อง: Supawadee Pikhao

ภาพ: Yuka Ishihara