หอไอเฟล ประตูชัย ถนนฌ็องเซลิเซ่ หรือจัตุรัสคองคอร์ด เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแลนด์มาร์กที่สำคัญในกรุงปารีสเท่านั้น ยังมีอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงรอให้คุณแวะเวียนไปท่องเที่ยว กรุงปารีสไม่ได้มีชื่อเสียงมาจากสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น หากแต่ว่าเป็นบรรยากาศที่มีความเป็นปารีสสุดๆ หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วบนโลกนี้ บอกได้เลยว่าบรรยากาศของกรุงปารีสนั้นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลหลักๆที่เรียกเอานักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้กลับมาที่นี่อีกครั้งได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าใครเบื่อการท่องเที่ยวรูปแบบเดิมๆ เดินเล่น ถ่ายรูป ซ้ำๆวนไปอย่างนี้ วันนี้เราจะมาแนะนำประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ นั่นก็คือบัสทัวร์นั่นเอง อย่างเพิ่งสงสัยว่าบัสทัวร์นี้มันแปลกใหม่อย่างไร มันแปลกใหม่ตรงที่บัสทัวร์นี้ไม่ใช่บัสทัวร์ธรรมดา หากแต่ว่าเป็นร้านอาหารสุดหรูเคลื่อนที่ต่างหาก Bustronome เป็นร้านอาหารที่ทั้งคลาสสิคและหรูหรา อีกทั้งยังแปลกแหวกแนวอีกด้วย เส้นทางเดินรถบัสเริ่มตั้งแต่ประตูชัย หลังจากทาง Bustronome ก็จะนำคุณท่องเที่ยวดื่มด่ำไปในบรรยากาศสุดโรแมนติคของกรุงปารีส
เมื่อขึ้นไปบนรถบัส พนักงานจะเข้ามาเช็คชื่อที่ได้ทำการจองเอาไว้ หลังจากทำการฝากเสื้อโค้ตและกระเป๋าที่ห้องฝากชั้น 1 แล้วขึ้นไปที่ชั้น 2 ที่เป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร บรรยากาศบนรถจะเป็นกระจกใสทั่วทั้งคันไม่เว้นแม้แต่หลังคารถ เปิดให้เห็นวิวปารีสแบบพาโนรามา ร้านอาหาร Bustronome นี้เสิร์ฟบรันช์ อาหารกลางวัน และดินเนอร์ โดยอาหารกลางวันจะเป็นอาหารแบบ 4 คอร์สในขณะที่ดินเนอร์มี 6 คอร์ส นอกจากนั้นแล้วยังสามารถสั่งไวน์เพิ่มได้โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เมนูอาหารจะถูกเปลี่ยนทุกๆ 1 เดือนครึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและฤดูกาล สามารถเข้าไปเช็คเมนูอาหารและจองโต๊ะได้บนเว็บไซต์ของ Bustronome มากไปกว่านั้นทางร้านยังมีเมนูมังสวิรัติเสิร์ฟอีกด้วย เพียงคุณแจ้งล่วงหน้าในขั้นตอนเลือกเมนูอาหาร และถ้าหากคุณมีอาการแพ้อาหารที่มีส่วนผสมของ Gluten และต้องการอาหารแบบ Gluten Free หรือแพ้อาหารจำพวกอื่นๆก็สามารถแจ้งล่วงหน้าได้เช่นกัน
เนื่องจาก Bustronome นั้นรับลูกค้าผ่านการจองล่วงหน้าเท่านั้น เพราะฉะนั้นจะลืมจองโต๊ะล่วงหน้าไม่ได้เด็ดขาด และยิ่งถ้าเป็นช่วงไฮซีซั่นแนะนำว่าให้จองล่วงหน้านานๆเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยวเนื่องจากโต๊ะเต็มค่อนข้างเร็ว
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเส้นทางเดินรถจะเริ่มต้นที่ประตูชัย หากแต่ว่าอาหารกลางวันและดินเนอร์จะมีเส้นทางที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยเส้นทางเดินรถของอาหารกลางวันจะเริ่มต้นที่ประตูชัย ต่อด้วยจัตุรัสทรอคาเดโร (Trocadero Square), หอไอเฟล, สวน Champs de Mars, พิพิธภัณฑ์ Invalides (Les Invalides), สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3 (Alexander III Bridge), กรองด์ปาเลส์ (Grand Palais), จัตุรัสคองคอร์ด (Concorde Square), มหาวิหารมาดแลน (Madeleine Cathedral), โรงอุปรากรปาเลส์การ์นิเย่ (Garnier Opera), พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum), พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ (Orsay Museum), สภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศส (Paris National Assembly) และวกกลับมาที่ประตูชัยอีกครั้ง เป็นการจบเส้นทางเดินรถช่วงอาหารกลางวัน ในขณะที่ช่วงดินเนอร์จะมีการเพิ่มสะพาน Pont des Garre, แซงมิเชล (Saint Michel), กงซีแยร์เฌอรี (Conciergerie), มหาวิหารนอร์ทเธอดาม (Notre-Dame de Paris Cathedral) และศาลาว่าการประจำเมืองปารีส (Hotel de Ville) เข้ามาระหว่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และพิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ เรียกได้ว่าเต็มอิ่ม เก็บทุกแลนด์มาร์กในกรุงปารีสเลยทีเดียว
และไม่ต้องกังวลว่าอยู่บนรถบัส Bustronome แล้วจะพลาดไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวความเป็นมาของสถานที่นั้นๆ คุณสามารถนั่งเฉยๆ ดื่มด่ำบรรยากาศพร้อมกับเปิดแผนที่ที่ทางร้านเตรียมเอาไว้ให้ พลางจิ้มปากกาอัจฉริยะลงไป เพียงเท่านั้นคุณก็สามารถรับรู้ได้ถึงประวัติความเป็นมาและเรื่องราวต่างๆของสถานที่นั้นๆได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ Audio Guide มีทั้งหมด 9 ภาษาด้วยกัน ประกอบไปด้วยภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาสเปน ภาษาอิตาเลียน ภาษาโปรตุเกส ภาษารัสเซีย ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น บอกได้เลยว่านี่เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ต้องมาสัมผัสเลยทีเดียว วิวพาโนรามาของกรุงปารีสพร้อมทั้งคำบรรยายสำหรับสถานที่ต่างๆ อีกทั้งยังมีอาหารรสชาติดีเสิร์ฟถึงที่ ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
และนี่คือวิวที่ได้รับเมื่อรถบัส Bustronome กำลังวิ่งผ่านหอไอเฟล แลนด์มาร์กสำคัญของกรุงปารีส อย่าลืมกดชัตเตอร์รัวๆเลยเพราะวิวแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ในขณะที่รถบัสกำลังวิ่งทั่วกรุงปารีสนั้นก็จะมีการเปิดเพลงคลอเบาๆสบายๆประกอบการรับประทานอาหารและวิวอันแสนสวยงามนี้ ประสบการณ์แบบนี้เหมาะที่จะนำครอบครัวและคนที่คุณรักมาสัมผัสด้วยกันจริงๆ
มาถึงอาหารกันบ้าง เปิดมื้ออาหารด้วยจานเรียกน้ำย่อยเบาๆ โดยมีชีส Burrata จากประเทศอิตาลีเป็นวัตถุดิบหลักเพิ่มเติมด้วยกะหล่ำปลีใบเล็ก ตัวชีส Burrata นั้นมีเนื้อสัมผัสที่แน่น จับตัวกันเป็นก้อน รับประทานง่าย แต่สำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับรสชาติของชีส ลองรับประทานคู่กับกะหล่ำปลี จะช่วยทำให้รสชาติของชีสเบาลง
หลังจากนั้นก็ต่อด้วยจานหลักจานแรก โดยทั่วไปการรับประทานอาหารฝรั่งเศสแบบคอร์สแบบนี้ ถ้าหากมีจานหลักมากกว่า 1 จาน ทางร้านจะเริ่มต้นเสิร์ฟอาหารจานปลาก่อน ต่อด้วยจานเนื้อ จานนี้คือปลาซีบาสที่ถูกปรุงมาเป็นอย่างดี หนังมีความกรุบกรอบในขณะที่เนื้อปลานั้นนุ่มและฉ่ำ ไม่แห้งจนเกินไป เสิร์ฟมาพร้อมกับซุปครีม Celery ที่ถึงแม้จะข้นแต่ก็นุ่มหอม ช่วยเพิ่มรสชาติให้ตัวเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี ถ้าหากคุณสั่งไวน์มาคู่กับอาหารจานนี้ ทางร้านจะเสิร์ฟไวน์ขาวมารับประทานคู่กับจานปลา เป็นคู่หูที่รับประทานคู่กันทีไรก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี
หลังจากจานปลาก็เป็นจานเนื้อ โดยจานเนื้อคือ Boeuf Bourguignon หรือสตูว์เนื้อวัวตุ๋นไวน์แดงซึ่งเป็นอาหารฝรั่งเศสขึ้นชื่อ โดยนำเอาเนื้อวัวนั้นลงไปตุ๋นกับไวน์แดงจากแคว้นเบอร์กันดี (Burgundy) พร้อมด้วยผักชนิดต่างๆเป็นเวลานานจนกว่าเนื้อวัวจะนุ่มจนแทบละลายในปากและได้ซึมซับเอาไวน์แดงเข้าไปในทุกอณูของเนื้อจนหมด โดย Boeuf Bourguignon ของ Bustronome นั้นถูกเสิร์ฟมาบน Pepinettes พาสต้าชนิดหนึ่งที่ทำมาจากข้าวโอ๊ต ธัญพืช และไข่ ที่มีหน้าตาคล้ายกับข้าวแต่มีรสสัมผัสเหมือนพาสต้า เจ้า Pepinettes ถูกนำมาเพื่อช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสของจานนี้ให้มีความน่าสนใจและสนุกยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าจานนี้จะต้องรับประทานคู่กับไวน์แดง
มาถึงขนมหวาน โดยมาเป็นเค้กที่ทำมาจากมะม่วงและเสาวรส ให้รสชาติที่หวานอมเปรี้ยว ตัดความเลี่ยนจากอาหารจานหลักได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสดชื่นหลังจบมื้ออาหารได้อีกด้วย แผ่นไวท์ช็อกโกแลตที่นำมาประดับตกแต่งก็ยังช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสให้เค้กชิ้นนี้มีความกรุบกรอบมากขึ้นอีกทั้งยังเพิ่มเติมความหวานให้จานนี้ได้อีกด้วย
หลายคนอาจจะคิดว่าการรับประทานอาหารบนรถบัสแบบนี้อาจจะไม่สะดวกเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัยหรือการที่จานอาหารหรือแก้วน้ำจะหล่นทำให้เกิดความเสียหายได้ บอกได้เลยว่าไม่ต้องหวงเพราะว่าทาง Bustronome นั้นได้ทำการเตรียมการมาอย่างดี เห็นได้เลยถึงความใส่ใจของทางร้านและพนักงาน โดยบนโต๊ะจะมีผ้ารองจานที่ทำมาจากวัสดุพิเศษที่ทั้งมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและเหนียว ทำให้ยึดเกาะกับโต๊ะและจานอาหารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งตรงกลางโต๊ะก็มีล็อกวางแก้วน้ำและแก้วไวน์ชนิดต่างๆที่ปิดโอกาสให้หล่นลงพื้นได้อย่างง่ายดายอีกด้วย เพราะฉะนั้นคุณสามารถรับประทานอาหารได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด ถ้าหากคุณสนใจจะนำครอบครัวและคนที่คุณรักมารับเปิดประสบการณ์อันสุดแสนพิเศษนี้ อย่าลืมดาวน์โหลดคูปองส่วนลดจาก O'bon Paris เพื่อรับโค้ดและรับทันทีส่วนลด 10% เมื่อใช้โค้ดที่ได้รับไปจองโต๊ะผ่านเว็บไซต์ Bustronome
เรื่อง: Aphinya Kasemsukphaisan
ภาพ: Yuna LEE
ที่อยู่: 2 Avenue Kléber, 75016 Paris
เวลาทำการ: บรันช์ - ทุกวันอาทิตย์เวลา 11:00 (1 ชั่วโมง 45 นาที) / อาหารกลางวัน - ทุกวันเวลา 12:15 และ 12:45 (1 ชั่วโมง 45 นาที) / ดินเนอร์ - ทุกวันเวลา 19:45 และ 20:45 (2 ชั่วโมง 45 นาที)
***หมายเหตุ: ต้องไปถึง 15 ก่อนเวลารถออก
ราคา:
บรันช์ 3 คอร์ส - ผู้ใหญ่ 65€ / เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 40€ / บรันช์ + ค่าเข้าประตูชัย 77€
อาหารกลางวัน 4 คอร์ส - ผู้ใหญ่ 65€ / อาหารกลางวัน + Wine Pairing (ไวน์ 2 แก้ว, น้ำดื่ม และชาหรือกาแฟ) 85€ / เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 40€ / อาหารกลางวัน + ค่าเข้าประตูชัย 77€
ดินเนอร์ 6 คอร์ส - ผู้ใหญ่ 100€ / ดินเนอร์ + Wine Pairing (แชมเปญ 1 แก้ว, ไวน์ 2 แก้ว, น้ำดื่ม และชาหรือกาแฟ) 130€ / เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 50€
เว็บไซต์: www.bustronome.com