MUSÉE D'ORSAY

A must visit impressionist museum in Paris

Musée d'Orsay

หากได้ลองนั่งเรือล่องในแม่น้ำแซน หรือเดินเล่นริมแม่แซน แน่นอนว่าคุณจะได้พบกับตึกรามบ้านช่องเรียงราย เเละอีกหนึ่งอาคารที่สะดุดตาโดดเด่นด้วยรูปทรงโครงสร้างคล้ายสถานีรถไฟ ซึ่งสได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ อาคารแห่งนี้ คือ ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Orsay ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมภาพเขียน ผลงานศิลปะแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ที่เป็นที่โด่งดัง สถานที่ดังริมเเม่น้ำแซนเเละโครงสร้างอาคารที่โดดเด่นนี้ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีผู้เข้าชมมากมายถึงราวๆ 3 คนต่อปี

 สวรรค์ที่จัดเก็บงานศิลปะยุคแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ ( “Impressionist paradise") พิพิธภัณฑ์แห่งนี้โดดเด่นในเรื่องของการจัดแสดงภาพแนว Impressionism และ Post-Impressionism คุณสามารถชื่นชมภาพเขียนของ Degas, Manet, Monet, Van Gogh and Renoir ได้จากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นอกจากนี้ยังจะได้ชื่นชมกับรูปปั้นต่างๆอีกมากมาย

 

1

ข้อควรรู้ก่อนเข้าชม

เนื่องจากพิพิธภัณฑ์นี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก ทำให้หลายๆครั้งเราจะเห็นภาพแถวยาวต่อกันที่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ ดังนั้นเพื่อช่วยลดระยะเวลาในการยืนรอ เราขอเเนะนำข้อมูลที่ควรรู้ให้ทุกคนให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มาขึ้น

พิพิธภัณฑ์ปารีส

Q. โดยทั่วไปแล้วเราควรใช้เวลานานแค่ไหนในการชมพิพิธภัณฑ์ ?

A. โดยทั่วไปการเดินชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้ทั่วถึงจะใช้เวลาอยู่ที่ราวๆ 4 ชั่วโมง

Q. ความยาวของเเถวในการรอเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ?

A. จริงๆเเล้วความนานในการยืนรอนั้นขึ้นอยู่กับช่วงเวลา คุณสามารถคลิ๊กเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ ที่นี่ เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อเเถวยาว เราขอเเนะนำให้จองตั่วออนไลน์ล่วงหน้า

Q. ช่วงเวลาที่เหมาสมในการเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ ?

A. เราเเนะนำว่าให้เดินทางไปถึงก่อน 10:30 วันที่เหมาะที่สุดก็เห็นจะเป็นวันพุธเเละวันศุกร์

Q.  ซึ้อตั๋วได้ที่ไหน ?

A. คุณสามารถซื้อตั๋วได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วของพิพิธภัณฑ์ หรือ ซื้อออนไลน์ผ่านทาง Getmyguide

 

Q. เราสามารถที่จะทราบที่ตั้งของภาพวาดเเต่ละชิ้นได้อย่างไร ?

A.  คุณสามารถตรวสอบได้ ที่นี่

 

 

2

ผลงานศิลปะที่ต้องเห็นให้ได้ด้วยตา

เพื่อให้การเข้าชมพิพิธภัณฑ์นั้นสะดวก รวดเร็วเเละมีเเผนผังที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เราขอเเนะนำให้เตรียมตัวให้พร้อมว่ามีผลงานศิลปะชิ้นไหนบ้างที่เราจะต้องไม่พลาดชม เเละจากนั้นเราก็จะสามารถวางเเผนการเดินได้ง่ายขึ้น โอกาสนี้เราขอเเนะนำภาพเด็ดๆที่ไม่ควรพลาดให้ทุกคนได้รู้จักกัน

 

 1. ชั้น G

Orsay museum

ที่ชั้น G เป็นสถานที่ซึ่งรวบรวมรูปปั้นที่สร้างขึ้นมาในช่วงปี 1850 ถึง 1880 มีงานปั้นจากนักปั้นที่มีชื่อเสียงอย่าง Courbet, Degas ตั้งเเต่ก่อปี 1870, Millet และ Nabists,มีทั้งรูปปั้นเชิงสัญลักษณ์ และรูปปั้นแบบสมจริง ที่ชั้นนี้ยังเป็นสถานที่ที่ใช้ในการจัดแสดงงานนิทรรศการศิลปะนใหม่ๆอีกด้วย การจัดแสดงผลงานที่ชั้นที่อาจจะเรียนกได้ว่าเป็นการจัดแสดงที่มีชีวิตชีวาที่สุดในพิพิธภัณฑ์ก็ว่าได้ นอกจากจะได้ชื่นชมกับรูปปั้นต่างๆแล้ว ก็ยังจะสามารถชื่นชมความยิ่งใหญ่และความงดงามในด้านโครงสร้างของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้อีกด้วย

 

ผลงานชิ้นสำคัญที่ต้องไม่พลาด

  • Thomas Couture, Les Romains de la décadence (1847)

Musée d'Orsay must see

 ภาพนี้เป็นภาพที่ถกุจัดให้อยู่ในกลุ่ม French Academisme เป็นภาพที่สื่่อถึงกิจวัตรของมนุษย์ เป็นการวิจารณ์สังคมของฝรั่งเศส โดยการพาดพิงถึงยุคโรมัน

  • Jean-François Millet, Des glaneuses (1857)

เป็นอีกหนึ่งภาพที่ทุกคนต้องมาเห็นได้ด้วยตัวเองเมื่อมาถึงพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นภาพที่นำเสนอความยากจนของชาวบ้าน 

  • Jean-Baptiste Carpeaux, Les quatre parties du monde soutenant la sphère céleste (1866)

Musée d'Orsay Must-see

รูปปั้นที่เสนอให้เห็นพลัง เเละรายละเอียดของรูปทรงมนุษย เป็นความต้องการนำเสนอการววมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวของเเต่ละภูมิภาคจนกลายเป็นโลก รูปร่าง ลักษณะของหญิงสาวนั้นเเตกต่างกันไปตามลักษณะของเเต่ละภูมิภาค (เอเชีย เเอฟริกัน อเมริกัน เเละยุโรป) การรวมตัวของผู้คนต่างที่มาจนหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

2. ส่วนชั้นกลาง

Musée d'Orsay Art Nouveau

.บริเวณชั้น 3 - ชั้น 4 เป็นสถานที่จัดเก็บคอลเลกชั่นของอุปกรณ์แต่งบ้านสไตล์อังกฤษเเละออสเตรียสมัยศตวรรษที่  19 โดยเฟอร์นิเอจร์ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นไปตามรูปแบบของ Art Nouveau คอลเลกชั่นเหล่านี้ถือว่าเป็นผลงานสำคัญเพราะเปรียบเสมือนเป็นต้นแบบเฟอร์นิเจอร์ที่มีผลต่องานดีไซน์ปัจจุบัน ในช่วงยุคศตวรรษที่ 19 เป็นช่วงที่มีความเปิดกว้างในเรื่องของการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับผลงานสุนทรีย์ ศิลปะ เฟอร์นิเจอร์ที่จัดแสดงในชั่นนี้จึงมีความหลากหลาย อังที่เห็นในภาพตัวอย่างด้านบน

 

Must-see works

  • Christopher Dresser, Soupière (1888)

Orsay Museum Art Nouveau

หม้อซุปขนาดใหญ่เป็นผลงานจาก Dresser ซึ่งเป็นผลงานที่มีความสำคัญอย่างมากในการเคลื่อนไหวด้านศิลปะ โดยเฉพาะสไตล์โมเดิร์น Anglo-Japanese ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงด้วยเหตุผลที่ว่า Dresser ได้สร้างผลงานที่มีทั้งความสวยงามเเละประโยชน์ใช้สอบ ถือว่าเป็นการผสมผสานอย่างลงตัว

  • Louis Comfort Tiffany,Vase (1915),Vase (1915), Vase (1900)

Musée d'Orsay

 ผลงานที่เห็นในภาพนี้เป็นการสร้างสรรค์จาก Louis ซึ่งเป็นผู้บริการคนเเรกของ Tiffany & Co เขามีความสามารถเเละเคยทำงานในด้านของศิลปะการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นงานเซรามิค จิวเวลรี่ เเละกระจกสี เหล่าผลงานด้านบนนี้มีชื่อว่า “favrile glass” ซึ่งมีความหมายว่า "เป็นของศิลปินผู้เป็นเจ้าของงานศิลปะ" 

 

  • Josef Hoffmann, Corbeille (1904)

Musée d'Orsay Art Nouveau

ผลงานศิลปะการตกแต่งของ Hoffman มีลักษณะโดดเด่นคือ เส้นสมมาตร เพื่อเเสดงถึงความเรียบง่าย 

 

3. ชั้น 5

Musée d'Orsay 5th floor

ชั้น 5 ของพิพิธภัณฑ์ เป็นสถานที่รวบรวมผลงานภาพเขียน post-impressionist ซึ่งมีทั้งฝีมือของ Manet, Monet, Cézanne, Gauguin, Pissarro, Renoir, Seurat และ Toulouse-Lautrec นิกจากนี้ยังมีภาพถ่าย ผลงานด้านสถาปัตยกรรม จะเเสดงอีกด้วย หากใครที่มีเวลาไม่มาก เราของเชิญชวนให้ตรงดิ่งมาที่ชั้น 5 นี้ได้เลย ที่ชั้นนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเเก่นสำคัญของพิพิธภัณฑ์เลยก็ว่าได้ 

 

Must-see paintings

  • Manet Edouard, Le déjeuner sur l'herbe (1863)

ภาพเขียนกลางห้องโถงที่โดดเด่น เป็นภาพของบุคคลสามคนที่กำลังนั่งทานอาหารในสวน เป็นภาพที่ดูเสมือนจริง เเละใช้สีได้น่าสนใจ สร้างความใกล้เคียวกับธรรมชาติได้มาเลยทีเดียว

  • Auguste Renoir, Bal du moulin de la Galette (1876)

Renoir, Bal du moulin de la Galette

อีกหนึ่งภาพอิมเพรสชั่นนิสม์ที่ห้ามพลาด ภาพนี้เป็นการนำเสนอบรรยากาศการเต้นรำในวันอาทิตย์ ที่บริเวณ Montmartre ณ กรุงปารีสในอดีต สีสันของภาพ เเละลวดลายการใช้สีของศิลปินทำให้ภาพนี้เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก

  • Vincent Van Gogh, La chambre de Van Gogh à Arles (1889)

Musée d'Orsay Van Gogh

ภาพวาดตามแบบห้องนอนของศิลปินชื่อดังอย่าง เเวน โก๊ะ สีสันที่ฉูดฉาด สดใส สีที่ตัดกัน เป็นที่ติดตาของคนที่ได้เห็นภาพนี้ 

Musée d'Orsay clock

. นอกจากภาพเขียนเเล้ว เรายังอยากชวนให้ทุกคนมาถ่ายรูปที่ด้านนาฬิกาเรือนใหญ่ของพิพิธภัณธ์ เรียกได้ว่าเป็นเเลนด์มาร์คสำคัญของพิพิธภัณฑ์เเห่งนี้เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้หากลองมองออกไปคุณก็จะได้พบวิวของกรุงปารีส มงมาร์ต สวนสาธารณะตุยเลอครี และเเน่นอนเเม่น้ำแซน

เมื่อเดินชอมงานศิลปะกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว การพาตัวเองไปนั่งในคาเฟ่ของพิพิธภัณฑ์ฏ้เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลย ร้านคาเฟ่นี้มีชื่อว่า Café Campana ราคาของอาหารอยู่ที่ 15-20 ยูโร การตกแต่งร้านก็เรียกได้ว่าเป็นเเนวของ Art Nouveau 

 

 

 

3

นิทรรศการพิเศษต่างๆ

.นอกจากคอลเลกชั่นประจำที่จัดเเสงดในพิพิธภัณฑ์แล้ว ที่ Musée d'Orsay แห่งนี้ยังมีการจัดแสดง หมุนเวียนนิทรรศการชั่วคราวต่างๆ อยู่เรื่อยๆ นิทรรศการชั่วคราวเหล่านี้ส่วนใหญ่จะจัดแสดงเป็นเวลา 4-6 เดือนตัวอย่างที่เรานำมาเสนอวันนี้ คือนิทรรศการของ Léopold Chauveau และ James Tissot 

 

1. The land of monsters, Léopold Chauveau

Musée d'Orsay Exhibit

งานของ Léopold Chauveau เน้นไปที่ความเป็นตัวของตัวเอง เเละความสดใส คุณอาจจะได้เห็นรูปของสัตว์ที่เเปลกตา เเละดูน่ารักในผลงานของศิลปินผู้นี้ ซึ่งจะทำให้คุณได้นึกถึงช่วงเวลาในวัยเด็ก การได้เข้าไปใช้เวลาในนิทรรศการที่มีความสดใส คงเป็นช่วงเวลาดีๆอีกครั้งที่คุณจะได้นิถึงความสนุกสนานเเละใช้จินตการต่างๆอย่างเพลิดเพลิน

 

2. Ambiguously modern, James Tissot

 Musée d'Orsay Temporary Exibition

James Tissot เป็นนักเขียนภาพในยุค Victorian เขาได้วาดภาพของช่วงเวลา ฉากต่างๆในช่วงเวลาว่างของกลุ่มคนชั่้นสูง ผลงานของเขามีลักษณธเด่น คือ ตัวละครของหญิงสาวที่เเต่งตัวสวยงาม บุคคลในภาพคงจะพอทำให้หลายๆคนนึกถึงนวนิยายเรื่อง  "The Lady of the Camellias" ของ Alexandre Dumas fils

 

O'bon Paris' tip

 หลังจากเล่าเรื่องของพิพิธภัณฑ์เเห่งนี้ให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกันเเล้ว เราก็อยากขอนำเสนอให้ทุกคนอย่าลืมที่จะลองชื่นชม เเละเพลิดเพลินกับการตกเเต่งของตัวอาคาร ซึ่งจะให้คุณได้พบกับรายละเอียดที่สะท้อนการให้เห็นวัฒนธรรมเเละความพยายามในการเก็บรักษาเรื่องราว วัฒธรรมต่างเอาไว้ให้ได้มากที่สุด 

นอกจากนี้ใครที่ชื่นชอบผลงานเเนวอิมเพรสชั่นนิสต์ เราก็ขอเเนะนำให้เดินต่อไปที่ พิพิธภัณฑ์ Orangerie ซึ่งคุณสามารถเลือกซื้อตั๋วแบบรวมทั้งพิพิธภัณฑ Orsay และ Orangerie  ได้ที่พิพิธภัฑ์ Orsay ในคราวเดียวเลย

 


Words and photographs by Alae Lee